ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.17 แข็งค่าเล็กน้อยจากช่วงเช้า ธุรกรรมเบาบาง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 25, 2024 17:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 34.17 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 34.20 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทาง

สำหรับยอดส่งออกเดือนพ.ย. ที่กระทรวงพาณิชย์ประกาศออกมา มีผลต่อค่าเงินบาทในวงจำกัด ส่วนถ้อยแถลงของประธาน ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ย

"บาทแข็งค่าจากเปิดตลาดเมื่อเช้าเล็กน้อย ปริมาณธุรกรรมเบาบาง เคลื่อนไหวไร้ทิศทางเหมือนค่าเงินในภูมิภาค" นัก
บริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.05 - 34.30 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 157.05 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 157.11 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0391 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0400 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,400.85 จุด เพิ่มขึ้น 6.18 จุด (+0.44%) มูลค่าการซื้อขาย 28,731.72 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 5.95 ล้านบาท
  • กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือนพ.ย. 67 ว่า การส่งออกของไทยมีมูลค่า 25,608
ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 8.2% จากตลาดคาด 7.0-9.0% ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 25,835 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 0.9% ส่งผลให้เดือน
พ.ย. 67 ไทยยังขาดดุลการค้า 224 ล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า ภาพรวมการส่งออกของไทยในปี 67 นี้ มีโอกาสขยายตัวได้ถึง
5.2% โดยมีมูลค่าแตะ 3 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นมูลค่าการส่งออกที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์

ส่วนแนวโน้มการส่งออกไทยในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวที่ 2-3% ภายใต้บริบทความท้าทายที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นมาตรการ กีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ แนวโน้มการค้าโลกที่อาจชะลอตัว ความขัดแย้งระหว่างประเทศที่ยังไม่คลี่คลาย อัตราดอกเบี้ยที่ยังทรงตัวใน ระดับสูง ตลอดจนความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

  • รมช.คลัง กล่าวถึงอัตราเงินเฟ้อในปี 68 ที่คาดว่าค่ากลางจะอยู่ที่ 2% มีความเป็นไปได้ หลังที่ผ่านมาการประสาน
ระหว่างนโยบายการเงินและการคลังดีขึ้น ซึ่งในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อนั้น นโยบายการคลังมีหน้าที่ดูว่าเศรษฐกิจฝืด หรือมีทิศทางเป็น
อย่างไร และต้องเข้าไปกระตุ้นด้วยมาตรการทางการคลัง ซึ่งปัจจุบันต้องยอมรับว่าภาคการคลังมีพื้นที่จำกัด ขณะที่มาตรการด้านการเงินก็
ต้องพิจารณาผ่านเรื่องอัตราดอกเบี้ย เพราะมีผลกระทบโดยตรงกับอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้นทั้ง 2 ขาจึงต้องทำงานร่วมกัน จะเหยียบคันเร่ง
หรือเหยียบเบรกก็ต้องพิจารณาร่วมกัน
  • รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในปี 67 ระหว่างวันที่ 1 ม.ค.-22 ธ.ค. ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ
เข้าไทยกว่า 34,378,323 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,616,634 ล้านบาท
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มจะบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% อย่างยั่งยืน
ในปีหน้า ซึ่งบ่งชี้ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยรอบใหม่อาจมาเร็วกว่าที่คาด
  • ดัชนีชี้นำเงินเฟ้อภาคบริการของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นแตะ 3.0% ในเดือนพ.ย. เร่งตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง สูงกว่าตัว
เลข 2.9% ในเดือนต.ค. สะท้อนการส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของภาคธุรกิจไปยังผู้บริโภค ท่ามกลางการปรับขึ้นค่าจ้าง
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปี ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
ของจีนที่ 2% ในวันนี้ (25 ธ.ค.) ตามการคาดการณ์ของตลาด หลังจากที่มีการปรับลดครั้งล่าสุด 0.30% เมื่อเดือนก.ย. ขณะที่ทางการ
จีนยังคงใช้ความระมัดระวังในการเพิ่มมาตรการกระตุ้นด้านการเงิน
  • สภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) ชุดที่ 14 จะเปิดการประชุมประจำปีครั้งที่ 3 ที่กรุงปักกิ่ง ในวันที่ 5 มีนาคม 2568
เพื่อพิจารณารายงานการดำเนินงานของรัฐบาล และตรวจสอบรายงานการดำเนินการตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประจำปี
2567 รวมถึงร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประจำปี 2568

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ