นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 34.27/28 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 34.13/20 บาท/ดอลลาร์
โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.10 - 34.30 บาท/ดอลลาร์ แต่วันนี้เงินบาทยังไม่มีปัจจัยใหม่สำคัญ เป็นแค่ แรงซื้อแรงขายทั่วไป เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคส่วนใหญ่ยังคงนิ่ง เนื่องจากหลายแห่งยังปิดทำการต่อเนื่องในช่วงปีใหม่
สำหรับคืนนี้ ตลาดรอติดตามจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ของสหรัฐฯ ซึ่งถ้าตัวเลขออกมาดี ก็มีโอกาสที่ ดอลลาร์จะฟื้นตัวขึ้นมาได้
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.30 - 34.50 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 156.81/84 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 157.30/75 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0355/0357 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0530/0382 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,379.85 จุด ลดลง 20.36 จุด (-1.45%) มูลค่าการซื้อขาย 36,852.83 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,251.82 ลบ.(SET+MAI)
- รมว.คลัง กล่าวถึงความจำเป็นที่จะต้องมีนโยบายการเงินมาเข้ามาช่วยในปี 68 ว่า เป็นสิ่งที่จะต้องพิจารณา หากคิดว่า
เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าก็ต้องลดดอกเบี้ย ถ้ามองว่าเศรษฐกิจฟื้นเร็วก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งขึ้นอยู่กับคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะ
พิจารณา โดยหลังปีใหม่ผ่านไปแล้วสถานการณ์ต่าง ๆ อาจเปลี่ยนแปลงไป ขณะนี้กำลังประเมินภาพรวม และจะได้นัดหารือกับธนาคารแห่ง
ประเทศไทย (ธปท.) ธนาคารพาณิชย์ รวมทั้งสภาพัฒน์ มาหารือร่วมกันต่อไป
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจโดยรวม เดือนธ.ค. 67 อยู่ที่ระดับ 48.4 ลด
ลงเล็กน้อยจาก 49.3 ในเดือน พ.ย.67 โดยภาพรวมดัชนีฯ กลับมาอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้นในไตรมาสสุดท้าย จากการฟื้นตัวของภาคที่ไม่ใช่
การผลิตเป็นสำคัญ ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นในเกือบทุกหมวดธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มเกี่ยวกับการท่องเที่ยว อาทิ กลุ่มโรงแรม และร้านอาหาร และ
กลุ่มขนส่งผู้โดยสาร ที่ความเชื่อมั่นปรับเพิ่มขึ้นมากตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาทิ สหภาพยุโรป และสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี
- เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงนโยบายในปีใหม่ 68 ที่รัฐบาลตั้งใจดำเนินการให้เป็นรูปธรรม เพื่อผลักดันให้ภาวะ
เศรษฐกิจไทยกลับมาฟื้นตัว และเพิ่ม GDP ให้สูงขึ้นกว่า 3% โดยเฉพาะแผนดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ โดยกำหนดเป้าหมายที่จะเร่ง
เครื่องยนต์เศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าเต็มที่ ด้วยการขับเคลื่อนการลงทุนสำคัญที่เป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ได้แก่ การลงทุนด้าน
ศูนย์ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ AI ขนาดใหญ่, ยานยนต์ไฟฟ้า, ระบบเกษตรแม่นยำ และอุตสาหกรรมอาหารที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซนจาก HCOB ที่จัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล (S&P
Global) ปรับตัวลดลงอยู่ที่ 45.1 ในเดือนธ.ค. ต่ำกว่าตัวเลข 45.2 ในเดือนพ.ย.เล็กน้อย และยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 มาตั้งแต่
กลางปี 2565
- ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานคืนนี้ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการ
ฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนธ.ค., การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนพ.ย.