ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งแรง ขานรับดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร ปอนด์ เยน และดอลลาร์นิวซีแลนด์ หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีชี้นำเศรษฐกิจขยายตัวขึ้นในเดือนเม.ย.
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.5506 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.5575 ดอลลาร์/ยูโร เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.9477 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9563 ดอลลาร์/ปอนด์
          หากเทียบกับสกุลเงินเยนและฟรังค์สวิส ดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับ 104.31 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 104.03 เยน/ดอลลาร์ และแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.0532 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0474 ฟรังค์/ดอลลาร์
          ดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลงแตะระดับ 0.7710 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7739 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.9525 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.9552 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
          ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดที่ระบุว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย. ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้ สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนเม.ย.จะลดลง 0.1% หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมี.ค.
          เจมส์ ฮิวจ์ นักวิเคราะห์จากซีเอ็มซี มาร์เก็ต กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันของเงินเฟ้อและอาจเผชิญภาวะ stagflation (ภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงแต่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น)
          เมื่อคืนนี้ สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดเพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 0.6% แตะระดับ 127.05 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ส่งสัญญาณว่าจะไม่เพิ่มปริมาณการผลิตในฤดูร้อนปีนี้ ทั้งนี้ ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแม้ซาอุดิอาระเบียประกาศว่าได้เพิ่มการผลิตน้ำมันขึ้นอีก 300,000 บาร์เรล/วันตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพ.ค.ก็ตาม