"พิชัย" เปิดทิศทางพาณิชย์ปี 68 ชูนโยบาย "เศรษฐกิจการค้าเข้มแข็ง เป็นธรรม เติบโตยั่งยืน"

ข่าวเศรษฐกิจ Saturday January 4, 2025 15:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 2568 นี้ กระทรวงพาณิชย์ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลโดยการนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการ "ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส" อย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งเน้นเป้าหมายให้ "เศรษฐกิจการค้าไทยเข้มแข็ง เป็นธรรม เติบโตอย่างยั่งยืน" ซึ่งกำหนดให้เป็น Motto ใหม่ของกระทรวงพาณิชย์

โดยกระทรวงพาณิชย์ยุคใหม่ จะเน้นหลักการทำงาน "80 : 20" คือ 80% มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้แก่ผู้ประกอบการ และเกษตรกร และอีก 20% เน้นการกำกับดูแลเพื่อสร้างความเป็นธรรมทางการค้า

สำหรับด้านการสร้างความเข้มแข็ง เริ่มจากเกษตรกร ซึ่งเป็นผู้ผลิตต้นทางจะต้องมีรายได้ที่เหมาะสม โดยกระทรวงพาณิชย์จะดูแลราคาสินค้าเกษตรและผลักดันราคา เพื่อให้เป็นปีทองของสินค้าเกษตรไทย สำหรับสินค้าที่ไทยเป็นผู้นำ อาทิ ข้าว โดยจะเปิดเสรีข้าว สนับสนุนผู้ประกอบการรายเล็กให้ส่งออกอย่างเต็มที่ รวมทั้งเพิ่มมูลค่าสินค้าโดยใช้ประโยชน์จากการรับรองคุณภาพและอัตลักษณ์ท้องถิ่น หรือ GI ด้วย

นอกจากนี้ ประเทศไทยยังตั้งเป้าที่จะเป็น "คลังอาหารของโลก" (Food Storage) ในการแก้ปัญหา Food Security ให้แก่ประเทศที่มีความต้องการ ซึ่งจะพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสและช่วยต่อยอดไปสู่กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่การผลิต

สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) จะเน้นการปลดล็อก หรือปรับลดกฎระเบียบที่เป็นข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจ และเสริมแกร่งโดยเสริมช่องทางการตลาดและเพิ่มมูลค่าสินค้า โดยการสร้าง Brand เสริมด้วย Soft Power ที่โดดเด่นของไทย

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้สร้าง Thailand Brand ให้เป็นเครื่องหมายการันตีคุณภาพสินค้าไทย สำหรับสินค้า SMEs ที่ยังไม่สามารถพัฒนา Brand เป็นของตัวเองได้ นอกจากนี้ ในส่วนของร้านอาหารไทย กระทรวงพาณิชย์เตรียมปรับโฉม Thai Select ให้สามารถใช้เป็นเครื่องหมายแสดงถึงคุณภาพแก่ร้านอาหารไทย ทั้งในและต่างประเทศ

นายพิชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ประกอบการที่พร้อมจะส่งออก กระทรวงพาณิชย์ จะผลักดันการส่งออกและการค้าชายแดน โดยการบุกตลาดที่มีศักยภาพต่างประเทศ และเร่งเจรจา FTA กับประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยเฉพาะ EU เพื่อใช้เป็นเครื่องมือผลักดันเศรษฐกิจไทยทั้งระบบ โดยส่งเสริมการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าเพื่อสร้างแต้มต่อให้แก่ผู้ประกอบการ

โดยในเดือนมกราคมนี้ จะมีการลงนามความตกลง FTA ระหว่างไทยกับ EFTA ที่ประกอบด้วยสมาชิก 4 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ ซึ่งจะเป็น FTA ฉบับแรกที่ไทยลงนามกับประเทศในภูมิภาคยุโรป ในช่วงการประชุม World Economic Forum ที่ดาวอส อีกด้วย

ส่วนด้านการสร้างความเป็นธรรม เน้นการกำกับดูแลให้ผู้บริโภค และเกษตรกร ได้รับความเป็นธรรมด้านราคา และปริมาณสินค้า และการบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ภายใต้กำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์แล้ว จะมีการแก้ไขปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย เพื่อปกป้องผู้ประกอบการจากการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และปกป้องผู้บริโภคคนไทยจากการที่จะต้องใช้สินค้าด้อยคุณภาพด้วย โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, กรมศุลกากร, สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.), สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นต้น

นอกจากนี้ ด้านการเติบโตอย่างยั่งยืน กระทรวงพาณิชย์ส่งเสริมสินค้ารักษ์โลก ลดปัญหาโลกร้อนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาลและรับผิดชอบต่อสังคม

"จากทิศทางและความมุ่งมั่นในการทำงานดังกล่าว มั่นใจว่ากระทรวงพาณิชย์ยุคใหม่ จะเป็นหน่วยงานหลักในการผลักดันเป้าหมาย MOC+ ให้เศรษฐกิจการค้าไทยเข้มแข็ง เป็นธรรม เติบโตอย่างยั่งยืนในปีนี้ได้อย่างแน่นอน" รมว.พาณิชย์ ระบุ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ