ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 34.63 แนวโน้มอ่อนค่าตามค่าเงินหยวน ให้กรอบวันนี้ 34.50-34.75

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 9, 2025 09:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.63 บาท/ดอลลาร์ จากปิดตลาดเย็น วานนี้ที่ระดับ 34.62 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาคเนื่องจากได้รับแรงกดดันจากเงินหยวนอ่อนค่า

ขณะที่ตลาดยังคงกังวลเรื่องผลกระทบจากการดำเนินนโยบายกีดกันทางการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี สหรัฐฯ ส่วนราคาทองในตลาดโลกยังเป็นทิศทางขาขึ้นหลังมีแรงซื้อของธนาคารกลางจีนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์

"บาททรงตัวแต่มีแนวโน้มอ่อนค่าตามภูมิภาค โดยได้รับแรงกดดันจากเงินหยวนอ่อนค่า ขณะที่ราคาทองในตลาดโลกยังมีทิศทาง ขาขึ้น" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.50 - 34.75 บาท/ดอลลาร์

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 34.6650 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 158.23 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 158.16 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0305 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0317 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.613 บาท/ดอลลาร์
  • เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีนักลงทุนเตรียมจะ
เซ็นสัญญากับ EEC 12 ราย วงเงินลงทุน 7 หมื่นล้านเหรียญ หรือประมาณ 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล
Data Center
  • "เอดับบลิวเอส" เดินหน้าแผนลงทุน 1.9 แสนล้านบาท ดีเดย์เปิดบริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ "AWS Asia
Pacific (Thailand) Region" คาดช่วยเพิ่มมูลค่าจีดีพีไทยมากกว่า 1 หมื่นล้านดอลล์ สร้างงานไม่น้อยกว่า 11,000 ตำแหน่งต่อปี
  • ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุน (FETCO) เปิดเผยว่า ประเทศไทยจะได้รับโอกาสการลงทุนจากต่างชาติอีกครั้ง
เหมือนในอดีตที่ญี่ปุ่นย้ายฐานการผลิตมาที่ไทยและทำให้เศรษฐกิจเติบโต 8-10% และครั้งนี้ไม่ใช่แค่ไทย แต่จะรวมถึงประเทศในอาเซียน
อาทิ เวียดนาม อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ที่จะรับคลื่นการลงทุนครั้งใหญ่ และต่อเนื่องไปอีก 3-5 ปี ถือว่าเป็นยุคทองของอาเซียน
  • "ขุนคลัง" การันตีเศรษฐกิจไทยปี 68 โตฉลุยทะลุ 3% พร้อมทบทวนมาตรการภาษีหวังเป็นแรงจูงใจให้ภาคธุรกิจ
ด้าน "กกร." ห่วงส่งออกแผ่ว วอนรัฐเร่งหามาตรการเบรกสินค้าต่างชาติทะลักเข้าประเทศ
  • ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเพียง 122,000
ตำแหน่งในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2567 และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 136,000
ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 146,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่าตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ
201,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2567
  • ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 17-18 ธ.ค. ซึ่งระบุว่า บรรดา
เจ้าหน้าที่เฟดได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและผลกระทบที่อาจเกิดจากนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดย
รายงานการประชุมบ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่เฟดจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจมีความไม่แน่นอน
  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ
4.25-4.50% ในการประชุมวันที่ 28-29 ม.ค.
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (8 ม.ค.) หลัง
จากมีรายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแผนที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจแห่งชาติ เพื่อให้เขามีอำนาจใน
การใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษีนำเข้า
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (8 ม.ค.) หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ อ่อนแอ
ลงในเดือนธ.ค. ซึ่งทำให้นักลงทุนมองว่าข้อมูลดังกล่าวอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ใช้ความระมัดระวังน้อยลงในการปรับลด
อัตราดอกเบี้ยในปีนี้
  • นักลงทุนในเอเชียจับตาการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเดือนธ.ค.ของจีน โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า อัตราการขยายตัวของ
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะยังคงอยู่ใกล้ระดับ 0% ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) มีแนวโน้มที่จะยังคงลดลง
  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มตลาด
แรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรจะเพิ่มขึ้นเพียง 154,000
ตำแหน่งในเดือนธ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.2%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ