ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.63 ระหว่างวันอ่อนค่า ก่อนกลับมาทรงตัวจากช่วงเช้า

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 9, 2025 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 34.63 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวในระดับ เดียวกับเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ผ่านมา ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคมีทิศทางอ่อนค่า ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.63 - 34.72 บาท/ดอลลลาร์ ขณะที่นักลงทุนขายพันธบัตร 1,446 ล้านบาท โดยคืนนี้ยังไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ

"ระหว่างวันบาทอ่อนค่าไปทำนิวไฮในรอบ 6 สัปดาห์ที่ระดับ 34.72 บาท/ดอลลาร์ ก่อนที่จะกลับมาแข็งค่าในช่วงท้ายตลาด ตามทิศทางของราคาทองในตลาดโลก" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.50 - 34.75 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 158.09 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 158.23 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0310 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0305 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,362.97 จุด ลดลง 24.75 จุด, -1.78% มูลค่าซื้อขายราว 46,901.72 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,289.90 ล้านบาท
  • สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่าในปี 2568 คาดการณ์การออกหุ้นกู้เท่ากับ 850,000-900,000
ล้านบาท จากปี 2567 ที่มีการออกหุ้นกู้ระยะยาวไป 913,141 ล้านบาท โดยในกลุ่ม Investment grade ที่ครบกำหนดในปีนี้เชื่อว่าจะ
สามารถ Rollover ได้ ขณะที่กลุ่ม High Yield อาจมีการชะลอการออกหุ้นกู้ไปก่อน อย่างไรก็ตามมองว่าสถานการณ์น่าจะไม่ได้แย่นัก
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) ชี้สถานการณ์การท่องเที่ยวไทย เห็นสัญญาณการฟื้นตัวต่อเนื่องเทียบกับ
ช่วงก่อนเกิดวิกฤตการณ์โควิด-19 แต่เมื่อมองในมุมที่กว้างขึ้น พบว่าไทยฟื้นตัวได้ช้ากว่ากลุ่มประเทศที่ได้รับความนิยมในการท่องเที่ยวอื่น
ๆ สัญญาณดังกล่าว อาจสะท้อนถึงไทยเริ่มเสื่อมมนต์ขลังในการดึงดูด โดยสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยอาจไม่ได้สดใสอย่างที่มองกันแบบ
ผิวเผิน แต่อาจมีความท้าท้ายที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งจะกลายเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตในระยะยาว คาดว่าปี 2568 จะมีนักท่องเที่ยว
ต่างชาติที่ 37.8 ล้านคน และอาจเริ่มเติบโตชะลอลงในปี 2569 จากนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ที่ยังไม่สามารถชดเชยนักท่องเที่ยวจากจีนที่ขาด
หายไปได้
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) มีแผนจะออกตั๋วเงินมูลค่า 6 หมื่นล้านหยวน (8.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อส่งเสริม
ผลิตภัณฑ์การลงทุนสกุลเงินหยวนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับสูงในฮ่องกง และยกระดับเส้นอัตราผลตอบแทนสกุลเงินหยวนในภูมิภาค
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้
บริโภค ขยับขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนธ.ค. 2567 เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนพ.ย.ที่ปรับตัวขึ้น 0.2% สะท้อนให้เห็นว่า
เศรษฐกิจจีนยังคงเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศอ่อนแอลง ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าจีนอาจจะเผชิญ
กับภาวะเงินฝืด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ