นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 34.60/61 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดที่ ระดับ 34.57/58 บาท/ดอลลาร์
โดยระหว่างวันเงินบาทยังไร้ปัจจัยใหม่ เคลื่อนไหวในกรอบแคบ 34.54 - 34.65 บาท/ดอลลาร์ และเคลื่อนไหวทิศทาง เดียวกับสกุลเงินในภูมิภาค
สำหรับคืนนี้ ตลาดรอติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค. ของสหรัฐฯ โดยมีการคาดการณ์ว่า ตัวเลขน่าจะ ออกมาดี ซึ่งจะส่งผลให้ดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่า และทำให้เงินบาทอ่อนค่าได้
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันจันทร์ไว้ที่ 34.40 - 34.80 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 157.85/87 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 158.72/77 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0304/0305 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0302/0305 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,367.99 จุด เพิ่มขึ้น 5.02 จุด (+0.37%) มูลค่าซื้อขาย 42,723.69 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,106.14 ล้านบาท
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปี 68 จะเติบโตช้าลงกว่าปี 67 เล็กน้อย ตามแรงหนุนท่องเที่ยว ส่งออกที่
ลดลง ท่ามกลางความเสี่ยงสงครามการค้า การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน และภาคการผลิตไทยที่ยังไม่ฟื้นตัว โดยแรงส่งจากภาคท่อง
เที่ยวต่อ GDP เริ่มลดลง หลังจำนวนเข้าใกล้ระดับก่อนโควิด
- นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค. นี้ ซึ่งจะเป็นการ
ดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง และถือเป็นการกลับสู่เวทีการเมืองที่น่าทึ่งที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกัน
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ออกแถลงการณ์ว่า PBOC จะระงับการซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร
ของจีนพุ่งขึ้น และทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าการตัดสินใจระงับซื้อพันธบัตรอาจมีเป้าหมายที่จะสกัดการอ่อนค่าของเงินหยวน
- นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ออกมาส่งสัญญาณเมื่อวานนี้ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 28-29 ม.ค. โดยจะ
ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งก็ต่อเมื่อเงินเฟ้อชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ