นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย ประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 68 โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ราว 2.4-2.9% ขณะที่การส่งออก คาดว่าจะขยายตัว 1.5-2.5% ต่อเนื่องจากปีก่อน ส่วนอัตราเงินเฟ้อ อยู่ที่ 0.8-1.2% ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำ
โดยประเด็นสำคัญที่ภาคเอกชนจับตาดูในปีนี้ คือการเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะการดำเนินนโยบายทางการค้า และนโยบายการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าที่อาจจะมีผลกระทบกับหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งกรณีนี้ ในช่วงครึ่งปีแรกอาจได้เห็นหลายประเทศเร่งนำเข้าสินค้าก่อนที่จะถูกปรับขึ้นภาษี จึงอาจทำให้ภาพรวมการส่งออกในช่วงครึ่งปีแรกยังมีทิศทางที่ดี
ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลัง ภาคเอกชนยังมีความกังวลใน 2 ประเด็น คือเม็ดเงินที่รัฐบาลจะใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจลดลง และภาวะเศรษฐกิจโลก ที่จะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และการส่งออกของไทยให้ชะลอตัวลงได้ ดังนั้น รัฐบาลต้องหามาตรการเข้ามาช่วยเสริมรายได้ของรัฐ
"เป็นความท้าทายที่สุดของรัฐบาลในการหารายได้เพิ่ม คงต้องตามดูว่ารัฐบาลจะหาวิธีไหนที่จะทำให้รายรับเพิ่มขึ้น ทางออกคือ หากรัฐบาลจะปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จาก 7% เป็น 15% อาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่อาจจะต้องค่อย ๆ ปรับขึ้นจาก 7% เป็น 8% รัฐบาลต้องศึกษาว่าเหมาะสมกับเวลาหรือไม่ เพราะหากมีผลกระทบต่อรายได้ของประชาชน ก็อาจจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงได้" นายสนั่น ระบุ
นายสนั่น เห็นว่า การดูแลเศรษฐกิจในระยะยาวนั้น หน่วยงานที่ดูแลนโยบายด้านการเงิน และด้านการคลัง ควรประสานการทำงานร่วมกันในการหาเม็ดเงินเพื่อมาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการหารายได้เข้ามาเติมเต็มให้กับภาครัฐ
"2 ส่วนนี้ เป็นสิ่งที่ต้องช่วยกันหาทางออก ไม่เช่นนั้น เศรษฐกิจไทยจะไม่มีกระสุน ยิ่งในช่วงครึ่งหลังปีนี้ เป็นสิ่งที่เรากังวลมาก" นายสนั่น กล่าว
พร้อมมองว่า รัฐบาลควรนำโครงการ "คนละครึ่ง" หรือโครงการ "คูณสอง" ออกมาใช้เพื่อช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งจะเป็นการดึงเงินจากกระเป๋าของผู้ที่มีกำลังซื้อ ให้ออกมาช่วยในการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศได้
นายสนั่น ให้ความเห็นถึงเสถียรภาพทางการเมือง หลังจากมีกระแสข่าวว่าจะมีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งใหญ่ในเดือนเม.ย. นี้ว่า การปรับคณะรัฐมนตรี ถือเป็นเรื่องปกติของรัฐบาล โดยมองว่ารัฐบาลยังมีเสถียรภาพในการบริหารประเทศต่อได้ และเป็นสิ่งจำเป็นมากที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งในประเทศและต่างประเทศ
"เรายังเชื่อมั่นว่ารัฐบาลยังทำงานได้อย่างต่อเนื่อง โชคดีที่ประเทศไทยที่ผ่านมา แม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาล แต่นโยบายยังคงเส้นคงวา ต่างประเทศยังมีความเชื่อมั่น ขณะที่ไทยเองยังมีมาตรการต้อนรับการลงทุนจากนักลงทุนต่างประเทศ" นายสนั่น ระบุ
ส่วนการดูแลกรณีสินค้านำเข้าราคาถูกจากต่างประเทศทะลักเข้าไทย โดยเฉพาะสินค้าจากจีนนั้น นายสนั่น กล่าวว่า ทางหอการค้าไทย อยู่ระหว่างศึกษาแนวทางที่เป็นมาตรการทางการค้าของประเทศต่าง ๆ ในอาเซียน เพื่อเตรียมเสนอให้กับรัฐบาลใช้เป็นแนวทางในการรับมือกับการดูแล และปกป้องการค้าระหว่างประเทศของไทย ซึ่งคาดว่าการศึกษาจะแล้วเสร็จในเดือนก.พ. นี้