ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.82 อ่อนค่ารอบ 2 เดือนสอดคล้องภูมิภาค แนวโน้มสัปดาห์นี้ลุ้นแตะ 35 บาท

ข่าวเศรษฐกิจ Monday January 13, 2025 17:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 34.82 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าสุดใน รอบ 2 เดือน จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.66 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 34.70 - 34.84 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทอ่อนค่าลงตามทิศทางของสกุลเงินอื่น ในภูมิภาค เนื่องจากตลาดยังย่อยข้อมูลตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในเดือน ธ.ค.67 ซึ่งออกมาสูงกว่าที่คาดไว้ ทำให้ ตลาดยังมองความไม่แน่นอนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะลดดอกเบี้ยนโยบายลงในช่วงกลางปีนี้

"บาทอ่อนค่าสุดในรอบ 2 เดือน แต่ก็เป็นตามทิศทางภูมิภาค เพราะตลาดยังย่อยข่าวตัวเลข Nonfarm Payrolls ของ สหรัฐ ที่ออกมาแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาด และมองว่าเฟด จะลดดอกเบี้ยลงอีกทีก่อนกลางปีนี้หรือไม่" นักบริหารเงิน ระบุ

สำหรับคืนนี้ ฝั่งสหรัฐฯ ยังไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่สัปดาห์นี้ ตลาดรอดูการรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค.

ทิศทางเงินบาทในสัปดาห์นี้ แนวโน้มอ่อนค่า และมีลุ้นที่จะแตะระดับ 35 บาท/ดอลลาร์

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.65-34.90 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 157.06 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 157.47 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0197 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0240 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,354.34 จุด ลดลง 13.65 จุด (-1.00%) มูลค่าซื้อขาย 42,966.31 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 118.28 ล้านบาท
  • นายกรัฐมนตรี เผย ที่ประชุม ครม. เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร
(Entertainment Complex) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ส่งเสริมการลงทุน และแก้ไขปัญหา
การพนันผิดกฎหมาย ซึ่งจะก่อให้เกิดผลดีต่อภาพรวมของสังคมในอนาคตภพรวม
  • ประธานกรรมการหอการค้าไทย คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้ โต 2.4-2.9% ส่วนการส่งออก คาดโต 1.5-2.5% ขยายตัวต่อ
เนื่องจากปีก่อน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อ จะอยู่ที่ราว 0.8-1.2% ซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำ พร้อมกังวลเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังปีนี้ จากเม็ด
เงินที่จะใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจลดลง รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจโลก ที่อาจมีผลกระทบมาสู่ภาคส่งออก และท่องเที่ยวของไทย โดย
แนะรัฐบาลเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ นำโครงการ "คนละครึ่ง" หรือ "คูณสอง" กลับมาใช้ เพื่อดึงเงินในกระเป๋าของผู้ที่มีกำลัง
ซื้อ ออกมาจับจ่ายใช้สอยช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา [BAY] คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.50-35.10 บาท/ดอลลาร์ โดยภาพรวม
สัปดาห์นี้ ตลาดจะให้ความสนใจกับตัวเลขเงินเฟ้อ และยอดค้าปลีกเดือนธ.ค.67 ของสหรัฐฯ รวมถึงความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลาง
สหรัฐ (เฟด) เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระยะต่อไป
  • Krungthai COMPASS ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 68 จะขยายตัวได้ 2.7% โดยยังมีแรงกดดันจากประเด็นสงครามการค้า
ที่กลับมาเร่งตัวขึ้น และความไม่แน่นอนของทิศทางเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้การส่งออกไทยปีนี้ อาจขยายตัวเพียง 2% ชะลอลงจากปีก่อน แม้
ในครึ่งปีแรกจะสามารถขยายตัวได้ดี แต่ความชัดเจนของมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ จะกลับมากดดันการส่งออกไทยในช่วงครึ่งปี
หลังได้
  • บีโอไอ สรุปยอดคำขอรับส่งเสริมการลงทุน ในปี 67 เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งจำนวนโครงการและมูลค่าเงินลงทุน โดยมี
จำนวน 3,137 โครงการ เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับปีก่อน นับว่าเป็นยอดจำนวนโครงการที่สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบีโอไอ และมีมูลค่าเงินลง
ทุน 1,138,508 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 35% สูงสุดในรอบ 10 ปี
  • ทางการจีนประกาศใช้นโยบายครั้งใหม่ที่มีเป้าหมายเพื่อสกัดการอ่อนค่าของเงินหยวนในวันนี้ (13 ม.ค.) ด้วยการผ่อน
ปรนกฎระเบียบการกู้ยืมจากต่างประเทศ หลังจากเงินหยวนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เผย ECB พร้อมผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในปีนี้ ต่อยังต้อง
ดำเนินทางสายกลางที่จะไม่ทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย หรือไม่ทำให้การควบคุมเงินเฟ้อต้องล่าช้าออกไป ขณะที่ในปี 2567 ที่ผ่าน
มา ECB ปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงแล้ว 4 ครั้ง และตลาดคาดว่าปีนี้ จะปรับลดลงอีก 4 ครั้ง
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศใช้นโยบายครั้งใหม่ ที่มีเป้าหมายเพื่อสกัดการอ่อนค่าของเงินหยวน ด้วยการผ่อนปรน
กฎระเบียบการกู้ยืมจากต่างประเทศ หลังจากเงินหยวนอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
  • ผู้บริหารสูงสุดของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เปิดเผยว่า ฮ่องกง จะเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน และแสวงหา

โอกาสการเติบโตใหม่ ๆ ด้วยการพัฒนาฮ่องกงให้เป็น "ศูนย์กลางการค้าทองคำระดับนานาชาติ" พร้อมกระชับความสัมพันธ์กับทั่วโลก เพื่อ

ดึงดูดเม็ดเงินลงทุน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ