นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 34.73 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 34.76/77 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามสถานการณ์ราคาทองในตลาดโลก ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 34.69 - 34.81 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินในภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน โดยวันนี้นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรราว 3.4 พันล้าน บาท
"บาทยังแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ รอปัจจัยต่างประเทศ ระหว่างวันเคลื่อนไหวไปตามราคาทอง" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 34.60 - 34.85 บาท/ดอลลาร์
โดยคืนนี้ตลาดรอการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 156.84 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 157.85/89 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0310 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0298/0300 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,353.17 จุด เพิ่มขึ้น 12.92 จุด, +0.96% มูลค่าซื้อขาย 44,216.57 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 945.38 ล้านบาท
- รมว.คลัง ระบุรัฐบาลตั้งเป้าหมายชัดเจนที่จะผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโตเกิน 3% เพื่อเป็นแรงส่งต่อให้เศรษฐกิจ
ไทยในปี 2569 สามารถขยายตัวได้ที่ระดับ 4-5% หากนโยบายและมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลได้ดำเนินการแล้วเห็นผลชัดเจนทั้งหมด
- ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เผย BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับระดับการสนับสนุนทางการเงิน หากภาวะ
เศรษฐกิจและเงินเฟ้อยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- ญี่ปุ่นรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3.49 ล้านคนในเดือน ธ.ค.67 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์รายเดือน เพิ่มขึ้นจาก 3.19
ล้านคนในเดือน พ.ย.67 นับเป็นการปิดฉากปีทองด้านการท่องเที่ยวที่ได้แรงหนุนจากค่าเงินเยนอ่อน
- รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศสั่งห้ามนำเข้าสินค้าจากบริษัทจีนเพิ่มอีก 37 แห่ง หลัง
พบการบังคับใช้แรงงานในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน โดยบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำอยู่ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ พลังงานแสง
อาทิตย์ และสิ่งทอ
- รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมประกาศมาตรการใหม่สกัดกั้นชิปเทคโนโลยีขั้นสูงที่ผลิตโดยไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริ
ง คอมพานี (TSMC) และผู้ผลิตรายอื่น ไม่ให้เล็ดลอดเข้าสู่จีน ซึ่งรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผลักดันในช่วงโค้งสุดท้ายของการดำรง
ตำแหน่ง
- กระทรวงพาณิชย์ (MOC) ของจีน เผยบริษัทในสหรัฐฯ จำนวน 7 แห่งได้ถูกขึ้นบัญชีในฐานะองค์กรที่ไม่น่าเชื่อถือ เนื่อง
จากจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับไต้หวัน
- สำนักงานสถิติแห่งชาติอังกฤษ (ONS) เผยดัชนีราคาผู้บริโภคเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดย
ชะลอตัวเป็นครั้งแรกในรอบสามเดือนในเดือน ธ.ค.ทำให้ยังคงมีความหวังว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยใน
เดือนหน้า
- สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนี เผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) หดตัวลง 0.2% ในปี 2567 ต่อเนื่องจากปี
ก่อนหน้าที่หดตัว 0.3% ซึ่งเป็นครั้งที่สองนับตั้งแต่ปี 2493 ที่เศรษฐกิจเยอรมนีหดตัวสองปีติดต่อกัน
- รองประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่า ECB จะเดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไป ท่ามกลางภาวะ
เศรษฐกิจซบเซาในภูมิภาค
- ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างเหนือความคาดหมาย 0.25% สู่ระดับ 5.75% ซึ่ง
เป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.ย. 2567 วนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า BI จะคงอัตราดอกเบี้ยในการ
ประชุมวันนี้ เมื่อพิจารณาจากค่าเงินรูเปียห์ที่เผชิญกับแรงกดดัน