นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีปราศรัยถึงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 อยู่ในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. 68 ว่า คงใกล้เคียง เพราะได้มีการพัฒนาระบบ และเดินหน้าไปได้มากแล้ว คาดว่าระบบจะพร้อมทดสอบในช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.
"หากมีความพร้อม ไตรมาส 2 จะเดินหน้าได้ กำลังทำงานให้เร็วที่สุด" รมช.คลัง กล่าว
ส่วนกลุ่มผู้ลงทะเบียนแบบไม่มีสมาร์ทโฟนนั้น นายจุลพันธ์ ยืนยันว่า จะมีการทำต่อ แต่ยังไม่กำหนด ต้องรอขั้นตอนทางกฎหมายให้ครบถ้วนก่อน ส่วนจะรวมกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนไว้ในในเฟส 3 ด้วยหรือไม่นั้น คงต้องพิจารณารายละเอียดก่อน เพราะมีรายละเอียดที่ยังหารือกันไม่จบ แต่จะพยายามทำให้ทัน
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ กรมบัญชีกลางมีความพร้อมโอนเงินหมื่นเฟส 2 แล้ว โดยในวันที่ 27 ม.ค.68 จะเดินหน้าโอนเงินเฟส 2 ให้กับผู้มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (22 ม.ค.) จะให้มีการตรวจสิทธิ์ในระบบแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" หากผูกบัญชีไว้แล้วกับพร้อมเพย์เงินจะเข้าบัญชีโดยอัตโนมัติ
"แต่หากโอนไม่สำเร็จ กระทรวงการคลัง จะทดลองโอนซ้ำ 3 รอบ เชื่อว่าจะแล้วเสร็จได้ใน 3 เดือน แต่หากยังไม่เรียบร้อย ถือว่าสละสิทธิ์" รมช.คลัง ระบุ
ส่วนกรณีที่มียอดผู้ตกสิทธิ์รับเงินในเฟส 2 ประมาณ 20,000 คนนั้น นายจุลพันธ์ ชี้แจงว่าไม่ใช่การตกสิทธิ์ แต่ส่วนใหญ่ คือเสียชีวิตราว 17,000 คน ส่วนที่เหลือเป็นเหตุผลรายละเอียดอื่น ๆ ซึ่งจะไม่ได้รับสิทธิ์ในรอบนี้ พร้อมย้ำว่า ไม่ใช่การตัดสิทธิ์ ทุกคนที่ลงทะเบียนไว้และเข้าเกณฑ์ จะได้รับสิทธิ์ครบทุกคน
ด้านนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวถึงความพร้อมในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการแจกเงิน 10,000 บาท ในเฟสที่ 2 ว่า ขณะนี้โครงการมีความพร้อมอย่างมาก โดยจะมีการเปิดให้ตรวจสอบรายชื่อของผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินในวันที่ 22 ม.ค.นี้ ส่วนในวันที่ 27 ม.ค. ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ จะได้รับเงินเข้าบัญชีตามกำหนด
สำหรับการแจกเงินในเฟสที่ 3 ให้กับประชาชนที่ได้มีการลงทะเบียนผ่านแอปฯ "ทางรัฐ" ไว้แล้ว ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะแจกเงินภายในเดือน มี.ค.-เม.ย.นั้น นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ถือว่าใกล้เคียงกับไทม์ไลน์ที่รัฐบาลวางไว้ เพราะอย่างที่เคยประกาศว่า เงินจะออกมาช่วงโลว์ซีซั่น ในช่วงไตรมาสที่ 2-3 ซึ่งรัฐบาลจะดูตามเหมาะสมว่าช่วงไหนที่ดำเนินการเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ส่วนความพร้อมของระบบ และแอปฯ ทางรัฐ นั้น นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามไทม์ไลน์ และขอให้รอแถลงความชัดเจนอีกครั้ง
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า จากฐานข้อมูลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กลุ่มผู้สูงอายุที่จะได้รับเงิน 10,000 บาท ในวันที่ 27 ม.ค.มีอยู่ประมาณ 4 ล้านกว่ารายชื่อ ซึ่งเป็นรายชื่อผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น "ทางรัฐ" ที่ได้มีการผ่านเงื่อนไขของกระทรวงการคลังแล้ว ดังนั้น ขอให้กลุ่มผู้สูงอายุเตรียมตัวรับเงิน และ ขอให้ใช้เงินอย่างคุ้มค่า ตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลที่ต้องการให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น และเป็นการเสริมอาชีพให้กับประชาชน พร้อมขอให้ระวังมิจฉาชีพ เพราะขณะนี้กลุ่มมิจฉาชีพกำลังจ้องที่จะหลอกลวงอยู่ในทุกรูปแบบอย่างแก๊งคอลเซ็นเตอร์