ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.99/34.01 แกว่งแคบ นลท.จับตาสุนทรพจน์ "ทรัมป์" เวที WEF-ข้อมูลศก.สหรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday January 23, 2025 17:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.99/34.01 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดที่ ระดับ 33.87/88 บาท/ดอลลาร์

โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ โดยเคลื่อนไหวนิ่ง ๆ เช่นเดียวกับสกุลเงินส่วน ใหญ่ในภูมิภาค

สำหรับคืนนี้ ตลาดรอติดตามจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ของสหรัฐฯ และการกล่าวสุนทรพจน์ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผ่านระบบวิดีโอในการประชุม World Economic Forum (WEF)

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.80 - 34.20 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 156.46/48 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 156.46/51 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0407/0409 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้านี้ที่ระดับ 1.0408/0411 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,344.17 จุด ลดลง 17.60 จุด (-1.29%) มูลค่าซื้อขาย 34,483.77 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 4,362.07 ล้านบาท
  • สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือน
ธ.ค. 67 ว่า การส่งออกในเดือนธ.ค. 67 มีมูลค่า 24,765 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 8.7% จากตลาดคาดโต 7.4% ซึ่งเป็นการขยายตัว
ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ส่วนการนำเข้า มีมูลค่า 24,776.5 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 14.9% ส่งผลให้เดือนธ.ค. ไทยขาดดุลการค้า
10.6 ล้านดอลลาร์ สำหรับภาพรวมการส่งออกของไทยในปี 67 นั้น การส่งออกมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 300,529 ล้านดอลลาร์ สูงสุดเป็น
ประวัติการณ์ ขยายตัวได้ 5.4% เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่การนำเข้าทั้งปี 67 มีมูลค่า 306,809 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ในปี 67
ไทยยังขาดดุลการค้า 6,280 ล้านดอลลาร์
  • ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) เปิดเผยว่า ราคาทองคำล่าสุด
เคลื่อนไหวแกว่งตัว Sideway up ท่ามกลางโมเมนตัมแรงซื้อที่เข้ามาได้ดีในระยะสั้น แม้ว่าราคาได้ปรับลดลงมาทดสอบแนวรับที่ 2,690
ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ในวันก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพื่อรอจับตาการแถลงนโยบาย โดย
เฉพาะนโยบายการค้า
  • ttb analytics ประเมินว่า ไทยมีความเสี่ยงจะถูกเพ่งเล็งจากมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ภายใต้นโยบาย
Trump 2.0 สูงเป็นอันดับที่ 2 ของอาเซียนรองจากเวียดนาม จากการที่สหรัฐฯ เสียเปรียบทางการค้ากับไทยในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็น
การเกินดุลการค้าของไทยสูง ข้อได้เปรียบด้านต้นทุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินบาท จำนวนคำสั่งมาตรการ AD และ CVD ในหลาย
ประเภทสินค้า (เช่น เหล็กและโลหะ แผงโซลาร์ และเคมีภัณฑ์) สูงกว่าคู่เทียบ รวมถึงการจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรของไทยใน
อัตราที่ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคู่ค้ารายอื่น
  • นายกรัฐมนตรี ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลง FTA ไทย-เอฟต้า (EFTA) ในวันนี้ ซึ่งข้อตกลงครั้งนี้ ประกอบ
ด้วย ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ ลิกเตนสไตน์ และประเทศไทย ซึ่งจะทำให้การค้าระหว่างไทยกับประเทศกลุ่มนี้ใน
สหภาพยุโรป มีปริมาณมากขึ้น จากกำแพงภาษีที่ปรับเปลี่ยนลดลง และอยู่ในข้อตกลงต่าง ๆ
  • ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธนาคารเจพีมอร์แกน เชส กล่าวว่า มาตรการภาษีศุลกากรที่คาดว่าประธานาธิบดีโดนัลด์
ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะนำมาใช้กับประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ นั้น สามารถมองในแง่บวกได้ แม้มีกระแสความวิตกกังวลว่ามาตรการภาษี
ศุลกากรอาจจุดชนวนให้เกิดสงครามการค้าทั่วโลกและทำให้เงินเฟ้อในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นอีก แต่หากมาตรการนี้ถูกนำมาใช้อย่างถูกต้อง ก็จะ
ช่วยปกป้องผลประโยชน์ของอเมริกา และจะดึงประเทศคู่ค้ากลับสู่โต๊ะเจรจาเพื่อทำข้อตกลงที่ดีขึ้นสำหรับสหรัฐฯ
  • นักลงทุนรอดูประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์ผ่านระบบวิดีโอลิงก์ในการประชุม World

Economic Forum ในวันนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ