นักวิชาการมองนโยบายทรัมป์ดันปมโลกร้อนแรงขึ้น สงครามการค้าแค่เกมต่อรอง

ข่าวเศรษฐกิจ Sunday January 26, 2025 16:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุน และการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (DEIIT-UTTC) ระบุการประกาศภาวะฉุกเฉินพลังงานแห่งชาติของรัฐบาลทรัมป์จะทำให้ราคาน้ำมันและพลังงานในตลาดโลกปรับตัวลงแรง มีแผนสนับสนุนการเพิ่มการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลและสำรวจแหล่งพลังงานฟอสซิลเพิ่มเติม ยกเลิกการห้ามขุดเจาะสำรวจแหล่งพลังงานในที่ดินทางการและพื้นที่นอกชายฝั่งของรัฐบาลโจ ไบเดน นอกจากนี้ยังชะลอแผนลดการปล่อยคาร์บอนของสหรัฐฯ มาตรการและนโยบายเหล่านี้จะช่วยทำให้อัตราเงินเฟ้อโลกปรับตัวลงต้นทุนการผลิตภาคธุรกิจอุตสาหกรรมลดลง เฉพาะหน้าส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกและไทย ค่าเฉลี่ยของอัตราเงินเฟ้อในไทยจะลดลงอีกจากแรงกดดันราคาพลังงานโลกลดลงอย่างชัดเจน อัตราเงินเฟ้อทั้งปี 2568 จะต่ำกว่าที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ที่ 0.8% และมีความเป็นไปได้ที่อัตราเงินเฟ้อในปี 2568 อาจต่ำกว่าปี 2567 อย่างไรก็ตาม การถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีสของสหรัฐฯ จะทำให้ภาระต้นทุนในการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนของประเทศอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ปัญหาโลกเดือดอาจรุนแรงขึ้นอีก อาจดันให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และสินค้าเกษตรสูงขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบแกว่งผันผวนสูง

คำสั่งประธานาธิบดีจำนวนมากในวันแรกของดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีทรัมป์ คือ การดำเนินงานตาม Heritage Project 2025 ของมูลนิธิ Heritage Foundation มูลนิธิเฮอริเทจ เป็นคลังสมองของเครือข่ายอนุรักษ์นิยมสหรัฐฯ มีความมุ่งหมายในการจัดการ "รัฐพันลึก" ในระบบราชการสหรัฐฯ ด้วยการปฏิรูประบบรัฐการและลดขนาดของระบบราชการของรัฐบาลกลาง ลดราคาพลังงาน ลดเงินเฟ้อ ตัดลดค่าใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ เนรเทศผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายกลับประเทศและยกเลิการให้สัญชาติโดยกำเนิด ปฏิรูปการศึกษาลดบทบาทรัฐบาลกลาง กำหนดให้รัฐบาลยอมรับการทำงานของบุคคลตามเพศสภาพเมื่อแรกเกิดเท่านั้น ส่งผลกระทบกับชาว LGBTQ ในสหรัฐฯ อย่างมีนัยยะสำคัญ ขณะเดียวกัน การยกเลิกการแบน Tik Tok และขอให้บริษัทอเมริกันเข้าไปถือหุ้นเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่สะท้อนว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะไม่รุนแรง และหากผลประโยชน์ลงตัว ทุกอย่างสามารถตกลงกันได้

การเข้าร่วมถือหุ้นใน Tik Tok ของกลุ่มทุนสหรัฐฯ จะทำให้อำนาจทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอีก ส่วนการแบ่งปันของชุมชนออนไลน์สามารถปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์ต่าง ๆ ได้เหมือนเป็นการร่วมกันทำงาน (Cooperation) เว็บไซต์อย่างเรดดิต และทวิตเตอร์ อาจสร้างการชี้นำความคิดของประชาชนได้มากกว่าหนังสือพิมพ์หรือสถานีโทรทัศน์ขนาดใหญ่ โลกออนไลน์ในระบบเศรษฐกิจแบบดิจิทัล เครือข่ายที่ทำงานร่วมกันย่อมได้รับผลลัพธ์ที่ดีกว่าผลงานที่ต่างคนต่างทำ การร่วมกันทำงานแบบเครือข่ายออนไลน์นั้นเป็นการทำงานข้ามพรมแดนรัฐชาติและมีลักษณะเป็นนานาชาติ ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมเครือข่ายความร่วมมือ (Collectivism) และประสานความร่วมมือเชิงลึก (Collaboration) ความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีทำให้การแบ่งปันในระบบเศรษฐกิจสามารถเกิดขึ้นในขอบเขตกว้างขวาง และขยายตัวอย่างก้าวกระโดดผ่านสังคมเครือข่ายความร่วมมือ มีคนมาช่วยกันทำงานเป็นกลุ่มทางออนไลน์มากมาย

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัลฯ (DEIIT-UTTC) ประเมินการลงทุนโครงการ Stargate 5 แสนล้านดอลลาร์หรือ 16 ล้านล้านบาท จะพลิกโฉมแข่งขันเทคโนโลยีชั้นสูงและสงครามการค้า การยกเลิกนโยบายกำกับควบคุมการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เพื่อไม่ให้มีการดำเนินการใด ๆ ที่ผิดศีลธรรม ให้เสรีภาพในการพัฒนามากขึ้น โครงการ Stargate เป็นการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ จะทำให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำทางด้านเอไอชัดเจนยิ่งขึ้น ทำให้เกิดการจ้างงานใหม่หลายแสนตำแหน่งเกี่ยวกับ Data Center, AI และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เป็นการเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจ การทำงานให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ และโลกโดยรวม การเพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจและการทำงานจะเกิดประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม หากไม่วางแผนรับมือความท้าทายให้ดีอาจเกิดผลกระทบต่อตลาดแรงงานมนุษย์ได้ บางประเทศจะมีฐานะเป็นเพียงผู้ซื้อและใช้เทคโนโลยี และหากไม่สามารถประยุกต์ หรือพัฒนาต่อยอดนำไปใช้อย่างเหมาะสมย่อมสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจได้น้อย เกิดช่องว่างเกิดความล้าหลังได้ การสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ภายใต้โครงการ Stargate โดยมี OpenAI, Softbank, Oracle รวมทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคอื่น ๆ ให้การสนับสนุนจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานของเอไอที่ใหญ่ที่สุด และทำให้ความต้องการในการบริโภคไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ศูนย์ข้อมูลที่ทำให้ AI ทำงานจะบริโภคข้อมูลจำนวนมหาศาล การลงทุนใน AI เป็นฐานรากสำคัญของยุคทองของสหรัฐฯ ที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเอาไว้ การประกาศส่งนักบินอวกาศและขยายอาณาเขตไปดาวอังคารจะสนับสนุนให้เกิดความก้าวหน้าทางวิทยาการเทคโนโลยี และเกิดธุรกิจอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอวกาศให้เป็นจริงได้ และนี่ก็เป็นฐานรากสำคัญอีกอันหนึ่งของนโยบาย Make America Great Again การลงทุนทางด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐานของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ผ่านมา เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดความก้าวทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม ศักยภาพทางนวัตกรรมเกิดจากการลงทุนทางด้านวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเทคโนโลยีใหม่ ๆ

ช่วง 2 เดือนหลังทรัมป์ชนะเลือกตั้ง ราคาหุ้นของบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคพุ่งขึ้น ทำให้กลุ่มทุนไฮเทครวยขึ้น 240,000 ล้านดอลลาร์ภายในสองเดือน คาดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น โครงสร้างเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะเผชิญการควบแน่นของการผูกขาดอำนาจทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีเพิ่มสูงขึ้นอีก สิ่งนี้ไม่ได้มีผลต่อสหรัฐฯ เท่านั้น แต่จะทำให้ระบบทุนนิยมโลกถูกครอบงำโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ไฮเทคมากยิ่งกว่าเดิม ผลประโยชน์และมูลค่าทางเศรษฐกิจจะถูกรวมศูนย์จากบริษัท 7 นางฟ้า เศรษฐกิจแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์นั้นถูกขับเคลื่อนและดำเนินไปโดยแรงงานที่ไม่ได้รับค่าจ้างในส่วนสำคัญของกิจการ ผู้คนเป็นพันล้านคนใช้เวลามากมายในแต่ละวันเพื่อสร้างเนื้อหาให้บริษัทสื่อสังคมออนไลน์ฟรี ๆ โดยรายงานเหตุการณ์ต่าง ๆ แสดงความคิดเห็น นำเสนอเรื่องราวต่าง ๆ พร้อมโพสต์รูปภาพต่าง ๆ โพสต์วิดิโอต่าง ๆ สิ่งที่อาจจะพิจารณาว่าเป็นค่าจ้างได้ ก็คือ การสื่อสารถึงกลุ่มคนต่าง ๆ และความสัมพันธ์ใหม่ หากโพสต์ใดมีคนเข้าชมหรือมีส่วนร่วมมากพอก็อาจได้รับส่วนแบ่งจากโฆษณาเพียงเล็กน้อยด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมและได้รับประโยชน์ที่เหมาะสมในเงื่อนไขที่เหมาะสมในอนาคตการแบ่งปันข้อมูลอาจจะขยายยัง ข้อมูลการเงินส่วนบุคคล ปัญหาสุขภาพ หรือชีวิตส่วนตัวก็ได้ เจ้าของธุรกิจแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์เจ้าใหญ่ ๆ ของโลกล้วนเป็นบริษัทสหรัฐฯ

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัลฯ (DEIIT-UTTC) ประเมินนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าต่อจีน 60% เป็นเพียงเกมการต่อรอง อาจไม่ทำจริง สงครามการค้าเป็นเพียงแค่ยุทธวิธีการเจรจา ไม่เกิดสงครามจริง ทัศนะบวกต่อจีนของทรัมป์ล่าสุดทำให้บรรยากาศการค้าโลกดีขึ้น และมีความเป็นไปได้เพิ่มขึ้นที่รัฐบาลทรัมป์จะไม่มีการปรับเพิ่มกำแพงภาษีมากอย่างนโยบายหาเสียง เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเติบโตได้ดีภายใต้ระบบการค้าเสรีของโลกในปัจจุบัน การแก้ปัญหาการขาดดุลทางการค้าของสหรัฐฯ ต่อประเทศต่าง ๆ ไม่มีความจำเป็นต้องตั้งกำแพงภาษีนำเข้าสูงมาก ๆ เพราะจะกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เอง ทำให้อัตราเงินเฟ้อค่าครองชีพพุ่งสูง กระทบต่อชาวอเมริกัน รายได้ประชาชาติของสหรัฐฯ ยังสูงที่สุดในโลก คิดเป็น 24% ของจีดีพีโลก (20 ล้านล้านดอลลาร์) มีรายได้เฉลี่ยต่อหัวอยู่ที่ 59,000 ดอลลาร์ สงครามการค้าไม่จำเป็นสำหรับสหรัฐฯ เป็นเพียงกลยุทธในการแก้ปัญหาการขาดดุลการค้าและต้องการให้ประเทศต่าง ๆ ซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ มากขึ้น การขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ส่วนหนึ่งก็เป็นการนำเข้าสินค้าของบริษัทสหรัฐฯ ที่ผลิตในประเทศอื่น ๆ เท่านั้นเอง

การที่สหรัฐฯ เป็นประเทศชั้นนำทางเศรษฐกิจ เพราะเป็นระบบเศรษฐกิจที่มีนวัตกรรมมากที่สุดและสหรัฐฯ ใช้ระบบทรัพย์สินทางปัญญาในการกำกับผลประโยชน์ให้ตกกับผู้สร้างนวัตกรรมให้มากที่สุด ดอลลาร์ยังคงเป็นเงินสกุลสำรองสำคัญของโลก สหรัฐฯ ยังเป็นประเทศที่มีอำนาจในการเพิ่มปริมาณเงินด้วยการพิมพ์ธนบัตรเมื่อจำเป็นเสมอ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยที่สุดในตลาดการเงิน ทำให้รัฐบาลสามารถกู้เงินมาสนับสนุนการขาดดุลงบประมาณได้ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามสถานะเหล่านี้อาจเปลี่ยนแปลงไปในอนาคตหากมีเงินสกุลอื่นมาแทนที่ดอลลาร์ได้ แต่คงเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาอีกหลายทศวรรษทีเดียว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ