นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.67 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจาก ปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 33.62 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลัก หลังตลาดคลายความ กังวลเรื่องการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน
ตลาดรอดูผลประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในช่วงกลางสัปดาห์ โดยคาดว่าจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ย แต่จะส่งสัญญา ณเรื่องทิศทางดอกเบี้ยในอนาคตอย่างไร นอกจากนี้ยังต้องรอฟังท่าทีของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ไปพูดในโอกาสต่าง ๆ
"บาทปรับตัวอ่อนค่าตามตลาดโลกหลังตลาดคลายกังวลเรื่องสงครามการค้าในช่วงสั้น ๆ ระหว่างวันบาทอาจเคลื่อนไหวตาม สถานการณ์ราคาทองในตลาดโลก" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.55 - 33.80 บาท/ดอลลาร์
SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 33.7100 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 155.56 เยน/ดอลลาร์ ทรงตัวเท่ากับช่วงเย็นวันศุกร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0474 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0493 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 33.783 บาท/ดอลลาร์
- นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานเปิดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับกลุ่มผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป โดยจะกดปุ่มส่งมอบเงิน
จำนวน 1 หมื่นบาทให้กับผู้ที่ได้รับสิทธิฯ จำนวนกว่า 3 ล้านคน -
- "พิชัย" รับลูกนายกฯ ลุยเจรจา FTA "ไทย EU" ตั้งเป้าปิดดีลสิ้นปี 68 เร่งเครื่องสร้างแต้มต่อทางการค้า ขยายตลาด
สินค้าไทยในยุโรป ดึงดูดการลงทุนจากทั่วโลก
- พาณิชย์เผยปี 67 ไทยโกยรายได้ส่งออกข้าวกว่า 2.26 แสนล้านบาท มูลค่าพุ่ง 27% ปริมาณทะลุ 9.97 ล้านตัน ตลาด
แอฟริกาแซงขึ้นเบอร์ 1 ส่งออกมากที่สุด
- รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ส่งหนังสือเพื่อยื่นกู้เงินจากธนาคารเพื่อพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) แล้วนำปล่อยกู้
สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ โดยเงินกู้นี้จะต้องนำมาปล่อยกู้ให้กับธุรกิจสีเขียวตามวัตถุประสงค์ของเอดีบี วงเงินกู้ 1,000 ล้านบาท ในเบื้องต้นต้อง
นำมาปล่อยกู้ให้กับสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อนำไปปล่อยสินเชื่อต่อในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าท้องตลาด เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ ดังนั้น มีความ
เป็นไปได้ที่การกู้เงินดังกล่าวจะนำมาให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ไปดำเนินการปล่อยเงินต่อให้ลูกค้าเพื่อ
ช่วยลดต้นทุนทางการเงิน และเน้นการปล่อยสินเชื่อธุรกิจสีเขียว
- ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 71.1 ในเดือนม.ค. ต่ำกว่า
ตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 73.2 จากระดับ 74.0 ในเดือนธ.ค.
- ตลาดการเงินทั่วโลกจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 28-29 ม.ค. นี้ ซึ่งเป็น
การประชุมครั้งแรกของปี 2568 รวมทั้งจับตาถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด โดยคาดว่าการแสดงความเห็นของพาวเวล
อาจจะบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
- การประชุมครั้งนี้ถูกจับตาอย่างใกล้ชิด หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้มีการปรับลดอัตรา
ดอกเบี้ย ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม World Economic Forum (WEF) เมื่อวันที่ 23 ม.ค. โดยเขากล่าวว่า "ผมขอ
เรียกร้องให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยทันที และเช่นเดียวกัน อัตราดอกเบี้ยทั่วโลกควรจะปรับลดลงตามเรา"
- ขณะที่ตลาดคาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม แต่เรื่องใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นคือวิธีการที่เฟดจะรับมือกับเคลื่อนไหว
ของรัฐบาลทรัมป์ที่น่าจะมีผลต่อเศรษฐกิจในปีนี้ ซึ่งรวมถึงการเรียกร้องให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก
- FedWatch ของ CME Group บ่งชี้ว่า บรรดานักลงทุนคาดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมในการประชุมวันที่ 28-
29 ม.ค.นี้ และคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกในเดือนมิ.ย.
- นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์คาดการณ์ว่า ในการประชุมวันที่ 28-29 ม.ค.นี้ พาวเวลจะส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการ
ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. หลังจากปธน.ทรัมป์ส่งสัญญาณในการประชุม WEF ว่าเขาต้องการให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลง โดยแม้
ปธน.ทรัมป์ไม่ได้เอ่ยชื่อเฟดโดยตรงในคำเรียกร้องดังกล่าว แต่ก็เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าเขากำลังกดดันเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะ
อย่างยิ่งพาวเวลซึ่งถูกปธน.ทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดเกี่ยวกับการดำเนินนโยบายการเงิน
- สัปดาห์นี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการ
ขาย และดัชนีราคา PCE และ Core PCE เดือนธ.ค. 2567 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. 2568 ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/67
(advanced) รวมถึงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
- นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการเติบโตทางเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า รวมถึงการประชุมเฟด
ขณะเดียวกันก็จะติดตามความคืบหน้าด้านนโยบายจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์