นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 33.71 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.67 บาท/ดอลลาร์
โดยระหว่างวัน เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.60-33.80 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เงินบาทอ่อนค่าตามสกุลเงินอื่นในภูมิภาค เนื่องจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต ของจีนออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด ประกอบกับตลาดยังระมัดระวังว่า "โดนัลด์ ทรัม ป์" ประธานาธิบดีสหรัฐ จะออกนโยบายกีดกันทางการค้า หรือขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศใดอีก
"ตลาดค่อนข้างระมัดระวังนโยบายกีดกันการค้าจากสหรัฐ ว่าประเทศไหนจะเป็นรายต่อไป และจีนจะโดนหรือไม่" นักบริหาร
สำหรับสัปดาห์นี้ ประเด็นสำคัญที่ตลาดจับตา คือผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ซึ่งจะทราบผลในช่วงกลางสัปดาห์นี้
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.60-33.85 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 154.28 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 155.56 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0496 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0474 ดอลลาร์/ยูโร
- SET ปิดวันนี้ที่ 1,340.94 จุด ลดลง 13.13 จุด (-0.97%) มูลค่าซื้อขาย 30,721.68 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,028.62 ล้านบาท
- กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ประเมินว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ
- รมว.คลัง เชื่อว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะสามารถขยายตัวได้เกิน 3% เนื่องจากมีโครงการขนาดใหญ่ที่เข้ามาลง
- กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ภาพรวมของปี 2567 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย
- ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ได้เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรร่วงลงแตะระดับ
- ราคาบิตคอยน์ร่วงลง 3.7% สู่ระดับต่ำกว่า 101,000 ดอลลาร์ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร เพียงไม่กี่วันหลัง
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค. 2568 ลดลงสู่ระดับ 49.1 จากระดับ 50.1 ในเดือนธ.ค.67
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตหดตัวลง หลังจากที่ขยายตัวติดต่อกัน 3 เดือนก่อนหน้านี้ โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวตามฤดูกาล
ก่อนที่จะถึงวันหยุดในเทศกาลตรุษจีน