นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม กล่าวถึงการขออนุมัติงบกลาง 140 ล้านบาท จากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อนำเงินไปจ่ายชดเชยให้กับผู้ประกอบการรถไฟฟ้า และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ตามมาตรการลดฝุ่นในกรุงเทพฯ ที่ให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้า และรถเมล์ฟรี 7 วัน (25-31 ม.ค.68) เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ว่า หลังจากเปิดให้บริการฟรีเมื่อวันที่ 25 ม.ค. พบว่ามีประชาชนเข้ามาใช้บริการประมาณ 500,000 คน ซึ่งสูงกว่าช่วงปกติถึง 60% โดยเฉพาะใน 2 วันแรกซึ่งเป็นวันเสาร์-อาทิตย์
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายท้วงติงว่าจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น ไม่ได้มาจากผู้ใช้รถยนต์นั้น นายสุริยะ กล่าวว่า สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้ประเมินตัวเลขจากกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ปกติมีการใช้รถใช้ถนนประมาณวันละ 10 ล้านคัน เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลครึ่งหนึ่ง หรือประมาณ 5 ล้านคัน พบว่า จากมาตรการดังกล่าว มีการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลลดลง 10% หรือประมาณ 5 แสนคัน
นายสุริยะ กล่าวว่า สำหรับงบกลาง ที่จะขออนุมัติจากที่ประชุม ครม. ซึ่งเดิมระบุไว้ที่ 140 ล้านบาท แต่ต้องเพิ่มเป็น 329.82 ล้านบาท เนื่องจากเดิม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไม่ของบประมาณไว้ แต่ภายหลัง รฟม. แจ้งว่าจะขอกันงบประมาณไว้เพื่อใช้ในโครงการอื่น ๆ จำนวน 144 ล้านบาท เช่นเดียวกันกับ ขสมก. ที่ขอเพิ่มอีก 51 ล้านบาท และเมื่อนำไปรวมกับเงินที่ต้องจ่ายชดเชยให้กับ BTS จำนวน 133 ล้านบาท จึงทำให้กระทรวงคมนาคมต้องยื่นของบกลางเพิ่มขึ้น
ส่วนกรณีที่ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS ประเมินว่าต้องขอรับเงินชดเชยประมาณ 200 ล้านบาทจากรัฐบาล ตามที่ได้ดำเนินมาตรการขึ้นรถไฟฟ้าฟรี นั้น นายสุริยะ กล่าวว่า เป็นตัวเลขรายได้ที่ BTS คิดย้อนหลังไป 7 วัน แต่รัฐบาลจะชดเชยให้ 7 วันที่ออกมาตรการ คือ 25 - 31 ม.ค. 68
สำหรับแนวโน้มจะขยายระยะเวลามาตรการออกไปหรือไม่นั้น นายสุริยะ ระบุว่า ขอประเมินสถานการณ์ให้รอบด้านก่อน เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ จากที่เคยขอ ครม.ไว้ 140 ล้านบาท แต่ตัวเลขจริงที่รัฐบาลต้องชดเชย อาจสูงถึงเกือบ 330 ล้านบาท นายสุริยะ กล่าวเพียงว่า "ทั้งหมดนี้ คือการทำเพื่อประชาชน"