นาทีนี้ประเด็นร้อนๆ จากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่หวนกลับมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่สอง หลังขึ้นรับตำแหน่งเมื่อ 20 ม.ค.ก็เขย่าโลกให้วุ่นวายกันยกใหญ่
ทรัมป์ ประกาศจะให้สหรัฐถอนตัวจากข้อตกลงปารีส และถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) อีกทั้งประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากหลายประเทศคู่ค้าที่เกินดุลกับสหรัฐมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การค้าโลกปั่นป่วนไปพอสมควร โดยเฉพาะจีน ทรัมป์เคยลั่นวาจาไว้ว่าจะตั้งกำแพงภาษีสูงถึง 60% แต่ล่าสุดทรัมป์ก็เปลี่ยนใจมาขยับขึ้นในเบื้องต้นแค่ 10% แต่อย่างไรก็ดี ทรัมป์ อาจจะประกาศเก็บเพิ่มภายหลัง
ในมุมของไทย นโยบายของทรัมป์จะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างไร ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาตลาดทุนไทย (FETCO) และกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ เลขานุการและกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ ให้สัมภาษณ์กับ "อินโฟเควสท์" ว่า เศรษฐกิจไทยรับผลกระทบจากนโยบายทรัมป์อย่างแน่นอน เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจโลก
สงครามการค้าคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะ Tech War ที่จะแบ่งข้างเป็น 2 ค่าย ค่ายสหรัฐ และค่ายจีน ซึ่งดร.กอบศักดิ์เห็นว่า สงครามการค้ารอบนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะสหรัฐจะทำสงครามการค้ากับทุกประเทศ หนึ่งคนตีกับทุกคน จะทำให้การค้าโลกเปลี่ยนไป แต่ก็มีมุมมองอีกด้านว่า หากสหรัฐต้องการขึ้นภาษีกับจีน ไทยก็อาจจะได้อานิสงส์ที่สหรัฐหันมาสั่งสินค้าจากไทยแทน
อย่างไรก็ดี ไทยต้องอ่านเกมให้ทะลุ เพื่อเตรียมรับมือได้ถูกทาง มองโดยรวมแล้วไทยไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการส่งออกมากนัก
ส่วนประเด็นเงินทุนไหลเข้ามีโอกาสมาไทย ยิ่งสหรัฐกับจีนทะเลาะกัน ไทยก็จะได้ประโยชน์จากการย้ายฐานจากจีนมาไทย
"ผมคิดว่ารอบนี้ สงครามการค้า สงครามเทคโนโลยี จะแรงกว่ารอบแรก รอบนั้นเป็นแค่จุดเริ่มต้น"
ดร.กอบศักดิ์ กล่าวว่า ทำอย่างไรที่เราจะอยู่ได้ภายใต้ความขัดแย้งของ 2 มหาอำนาจ ทางเลือกมีไม่มาก ทางออกที่ดีให้ไทยอยู่รอดภายใต้ความขัดแย้ง โดยที่เราต้องไม่เลือกข้าง เพราะการเลือกข้างจะทำให้เรามีปัญหาหลังความขัดแย้งจบลง ซึ่งทั้ง 2 ประเทศก็ยังยิ่งใหญ่ต่อไป เราต้องอยู่ตรงกลางอย่างมียุทธศาสตร์" ดร.กอบศักดิ์กล่าว
https://youtu.be/ouQspS_BFMc