"กอบศักดิ์" ชี้โลกเดือด! สงครามการค้าปะทุรุนแรง เตือนไทยต้องเตรียมพร้อมรับมือ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 3, 2025 14:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุน (FETCO) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า ปั่นป่วนทั่วโลก ... ด้วยมือ Trump !!! วันที่ 2 ของสงครามการค้าโลก จุดจบของ USMCA ที่เคยเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดของโลกที่เริ่มเมื่อปี 1994 ในชื่อ NAFTA จุดเริ่มต้นของความปั่นป่วนของตลาดการเงินโลก

ล่าสุด เช้าวันนี้ Dow Jones Future ร่วงไปถึง 500 จุด หรือ -1.2% Nasdaq Future ร่วง 480 จุด หรือ -2.2% ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ขึ้นมาที่ 109.4 หรือ +1.1% สวนทางค่าเงินดอลลาร์แคนาดาอยู่ที่ 1.48 หรืออ่อนค่าลงไปถึง 2.3% จากวันศุกร์ที่แล้ว โดยอ่อนค่าสุดในรอบ 20 ปี ค่าเงินเปโซ Mexico อยู่ที่ 21.2 อ่อนลง -3.55% ค่าเงินหยวน offshore อยู่ที่ 7.35 อ่อนลง -1.2% หลังชัดเจนแล้วว่า แคนาดา เม็กซิโก และจีน เลือกที่จะ "ลุกขึ้นมาต่อต้าน" ไม่ "สยบยอม" ต่อทรัมป์

แคนาดาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าโต้ตอบสหรัฐในอัตรา 25% เช่นกันสำหรับสินค้าจำนวน 155 พันล้านดอลลาร์แคนาดา โดยเริ่มที่กลุ่มแรก 30 พันล้านในวันอังคาร (พร้อมกับการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐ) ส่วนที่เหลือ 125 พันล้าน จะขึ้นในอีก 21 วัน นอกจากนี้ ประชาชน ธุรกิจ รัฐบาลท้องถิ่นของแคนาดาจะเริ่ม Boycott สินค้าอเมริกาต่างๆ โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มเหล้า ไวน์ และอื่นๆ

หลายคนในแคนาดารู้สึกว่าสหรัฐทำอย่างนี้ได้อย่างไร และการทำร้ายแคนาดาครั้งนี้เป็นการทรยศต่อความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองฝ่ายที่มีมานาน นายกรัฐมนตรีแคนาดาบอกว่า "จากชายหาดนอร์มังดีถึงภูเขาบนคาบสมุทรเกาหลี จากทุ่งแฟลนเดอร์สถึงถนนในกันดาฮาร์ เราต่อสู้และล้มตายเคียงข้างคุณในโมงยามที่มืดมนที่สุดของคุณ"

"ใช่ เรามีความแตกต่างกันในอดีต แต่เราก็พบวิธีที่จะผ่านมันไปได้เสมอ อย่างที่ผมเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ หากประธานาธิบดีทรัมป์ต้องการนำยุคทองใหม่มาสู่สหรัฐอเมริกา หนทางที่ดีกว่าคือการร่วมมือกับแคนาดา ไม่ใช่ลงโทษเรา

ด้านเม็กซิโกประกาศที่จะใช้ Plan B ที่จะใช้ทั้งมาตรการภาษีนำเข้าและมาตรการอื่นๆ ประกอบเพื่อตอบโต้ โดยประธานาธิบดีเม็กซิโกบอกว่า "ผมได้สั่งการให้รัฐมนตรีเศรษฐกิจของผมดำเนินการตามแผน B ที่เรากำลังพิจารณาอยู่ ซึ่งรวมถึงมาตรการภาษีและมาตรการทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเม็กซิโก"

ขณะที่จีนตัดสินใจที่จะนำเรื่องไปฟ้อง WTO หรือองค์กรการค้าโลก ว่า เป็นการดำเนินการที่ขัดต่อข้อตกลงการค้าเสรี และพร้อมดำเนินมาตรการต่างๆ ตอบโต้เช่นกัน

ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์หลังจากทราบทางเลือกของทั้ง 3 ประเทศ ก็ได้ออกมาโพสต์คำสนับสนุนของหลายๆ คนในสหรัฐที่เห็นด้วยกับการขึ้นภาษีกับทั้ง 3 ประเทศ และระบุเพิ่มเติมว่า "Tariff Lobby ซึ่งนำโดยกลุ่มโลกาภิวัตน์ และ Wall Street Journal กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ความถูกต้องให้กับประเทศอย่างแคนาดา เม็กซิโก จีน และอีกหลายประเทศ ที่ปล้นอเมริกามายาวนานหลายทศวรรษ ทั้งในด้านการค้า อาชญากรรม และยาเสพติดที่ได้รับอนุญาตให้ไหลเข้าสู่อเมริกาอย่างเสรี วันเหล่านั้นสิ้นสุดลงแล้ว! สหรัฐอเมริกาขาดดุลมหาศาลให้กับแคนาดา เม็กซิโก และจีน (และเกือบทุกประเทศ!) เป็นหนี้ถึง 36 ล้านล้านดอลลาร์

และเราจะไม่เป็น 'ประเทศโง่เขลา' อีกต่อไป ผลิตสินค้าของคุณในสหรัฐถ้าไม่อยากเจอภาษี! ทำไมสหรัฐอเมริกาต้องสูญเงินหลายล้านล้านดอลลาร์ไปกับการอุดหนุนประเทศอื่นๆ และทำไมประเทศอื่นๆ เหล่านี้จึงจ่ายเงินเพียงเศษเสี้ยวเดียวของสิ่งที่พลเมืองสหรัฐจ่ายเป็นค่ายาและเวชภัณฑ์ นี่จะเป็นยุคทองของอเมริกา! จะมีความเจ็บปวดเกิดขึ้นบ้างไหม? ใช่ อาจจะเกิดขึ้น (และอาจจะไม่!) แต่เราจะทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และมันจะคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายไป เราเป็นประเทศที่บริหารด้วยสามัญสำนึก และผลลัพธ์จะออกมาอย่างยอดเยี่ยม!!!"

"เราจ่ายเงินหลายแสนล้านดอลลาร์เพื่ออุดหนุนแคนาดา ทำไมล่ะ? ไม่มีเหตุผล เราไม่ต้องการอะไรที่พวกเขามี เรามีพลังงานไม่จำกัด เราควรผลิตรถยนต์ของเราเอง และเรามีไม้มากมายเกินกว่าจะใช้หมด หากไม่มีการอุดหนุนจำนวนมหาศาล แคนาดาก็จะไม่สามารถธำรงอยู่ต่อไปได้ในฐานะประเทศ มันอาจจะฟังดูโหดร้าย แต่เป็นเรื่องจริง! ดังนั้น แคนาดาจึงควรเป็นรัฐที่ 51 ของเรา เพื่อที่ประชาชนของแคนาดาจะได้เสียภาษีลดลงมาก และได้รับการคุ้มครองทางทหารที่ดีกว่ามาก -และจะไม่มีภาษีศุลกากร!"

"ใครก็ตามที่ต่อต้านภาษี รวมถึง Wall Street Journal ที่เผยแพร่ข่าวปลอม และกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ต่างต่อต้านภาษีเพียงเพราะบุคคลหรือหน่วยงานเหล่านี้ถูกควบคุมโดยจีน บริษัทต่างประเทศหรือบริษัทในประเทศอื่นๆ ใครก็ตามที่รักและเชื่อในสหรัฐอเมริกาจะเห็นด้วยกับภาษีศุลกากร ภาษีศุลกากรไม่ควรถูกล้มเลิก เพื่อสนับสนุนระบบภาษีเงินได้ (Income Tax System) ในปีค.ศ. 1913 การตอบสนองต่อภาษีศุลกากรนั้นยอดเยี่ยมมาก!"

นายกอบศักดิ์ ระบุว่า เมื่อทุกฝ่ายเดินมาถึงจุดนี้ เมื่อเลือกที่จะไม่เจรจาคุยกัน ก็คงต้องทำใจว่าสงครามการค้าโลกคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เริ่มต้นจาก 4 ประเทศ ต่อไปก็คงจะขยายวงกว้างขึ้น เพราะ 3 ประเทศนี้ คือ ประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐที่จะสามารถกระทบบูมเมอแรงกลับมาที่สหรัฐได้แรงสุด เพราะคนที่เหลือ เล็กกว่ามากที่สหรัฐไม่ต้องใส่ใจกับผลกระทบที่จะกลับมาเท่ากับ 3 ประเทศนี้

เพราะล่าสุด ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังจับตาอีกประเทศ โดยระบุว่า " แอฟริกาใต้ กำลังยึดที่ดินและปฏิบัติต่อคนบางกลุ่มอย่างเลวร้ายมาก นับเป็นสถานการณ์เลวร้ายที่สื่อฝ่ายซ้ายสุดโต่งไม่ต้องการพูดถึงด้วยซ้ำ การละเมิดสิทธิมนุษยชนครั้งใหญ่กำลังเกิดขึ้นให้ทุกคนได้เห็น สหรัฐอเมริกาจะไม่ยอมให้เกิดขึ้น เราจะดำเนินการ นอกจากนี้ จะตัดเงินทุนทั้งหมดในอนาคตสำหรับแอฟริกาใต้จนกว่าการสอบสวนสถานการณ์นี้จะแล้วเสร็จ!"

เมื่อฝุ่นหายตลบ ประเทศที่เกินดุลกับสหรัฐระดับถัดไป เช่น สหภาพยุโรป เวียดนาม คงเป็นเป้าหมายถัดไป เส้นทางต่อไปก็จะไม่ง่าย กระทบต่อเศรษฐกิจของทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะแคนาดาและเม็กซิโกที่ส่งออกไปสหรัฐมากกว่า 70% พึ่งพาสหรัฐ แบบที่ขาดไม่ได้ เพราะช่วงที่ผ่านมา ได้อาศัยเศรษฐกิจสหรัฐมาเป็นตลาดสำคัญที่หล่อเลี้ยงธุรกิจของตนเอง แคนาดามีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย เศรษฐกิจเม็กซิโกคงจะชะลอตัวจากที่เคยคาดไว้อย่างมีนัยยะ จีน คงกระทบในส่วนของค่าเงินหยวน สหรัฐ ก็จะได้รับผลกระทบจากราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น จากเงินเฟ้อรอบใหม่ และในส่วนของผู้ส่งออกที่ได้รับผลกระทบ แต่ท่านก็บอกไว้แล้วว่า

"เราจะไม่เป็น 'ประเทศโง่เขลา' อีกต่อไป" ... "จะมีความเจ็บปวดเกิดขึ้นบ้างไหมน่ะหรือ? ใช่ อาจจะ (และอาจจะไม่!)" แต่เราจะทำให้ประเทศอเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง และมันจะคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายไป"

สหรัฐคงพร้อมที่จะออกจาก WTO เพราะประธานาธิบดีทรัมป์เคยขู่ไว้แล้วเมื่อปี 2561 ที่จะออกจากการเป็นสมาชิก เนื่องจากสหรัฐได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจาก WTO ส่วนประเทศอื่นๆ รวมถึงไทย ก็ต้องเตรียมรับมือกับผลกระทบที่จะตามมา

ด้านค่าเงิน ตลาดหุ้น ตลอดจนด้านสินค้าราคาถูกจากจีนที่จะไหลเข้ามามากขึ้นเมื่อส่งไปที่สหรัฐไม่ได้จากมาตรการภาษีกับสินค้าราคาต่ำกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ ที่สหรัฐยกเลิกการยกเว้นไป พร้อมกันด้วยทำใจว่าเรากำลังอยู่ในโลกใหม่ที่ต่างจากเมื่อก่อนวันที่ 20 ม.ค. 68

ที่สำคัญที่สุด คงต้องถามตัวเองว่า

  • เราได้เปรียบและเอาเปรียบอะไรสหรัฐหรือไม่
  • เรามีประโยชน์อะไรกับเขา
  • เราจะซื้ออะไรเพิ่มจากเขาได้
  • ถ้าถึงจุดนั้นจริงๆ จะยอมแบบ Colombia หรือไม่

นายกอบศักดิ์ ระบุว่า ไทยต้องมองหาทุกทางออกเตรียมไว้ เพื่อให้เราพร้อมรับมือ พร้อมเจรจาต่อรอง เมื่อถึงรอบของเรา และมองหาโอกาสที่จะเปิดขึ้นจากความผันผวนปั่นป่วนข้างหน้า น่าตื่นเต้นน่าติดตามว่าจะเกิดอะไรต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ