นักวิเคราะห์ก.เกษตรสหรัฐยอมรับการผลิตไบโอดีเซลเพิ่มมีส่วนทำให้ราคาอาหารแพง

          โยเซฟ กลอเบอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำกระทรวงเกษตรสหรัฐยืนยันว่า การเพิ่มปริมาณการผลิตไบโอดีเซลส่งผลกระทบต่อราคาอาหาร และยอมรับว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ราคาอาหารพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา
          กลอเบอร์กล่าวว่า ราคาอาหารได้รับผลกระทบอย่างมากจากต้นทุนแรงงานและต้นทุนด้านการขนส่ง ซึ่งสังเกตได้จากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.ที่พุ่งขึ้น 0.9% ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2533  และในช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ราคาอาหารในสหรัฐก็ถีบตัวสูงขึ้นแล้ว 5%
          "ขณะที่กลุ่มประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เริ่มเฟื่องฟูขึ้น ประชากรของประเทศเหล่านี้ก็ต้องการโปรตีนในอาหารเพิ่มขึ้น อาทิ เนื้อไก่และเนื้อวัว ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ความต้องการอาหารและราคาอาหารพุ่งสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ ปัจจัยด้านสภาพอากาศ อาทิ อากาศที่แห้งแล้ง และการที่หลายประเทศใช้มาตรการเข้มงวดในการส่งออกข้าว ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ราคาอาหารแพงเช่นกัน" กลอเบอร์กล่าว
          "ไบโอดีเซลเป็นสิ่งที่สำคัญมากในยุคนี้ ขณะที่การผลิตเอธานอลยังคงดำเนินต่อไปนั้นทำให้ปริมาณการใช้ข้าวโพดในการผลิตเอธานอลจะเพิ่มขึ้น 33% แต่การใช้ข้าวโพดในการผลิตเอธานอลไม่ได้ทำให้ดัชนี CPI เพิ่มขึ้นมากนัก" เขากล่าว
          ขณะที่ เอ็ด แชฟเฟอร์ รมว.กระทรวงเกษตรสหรัฐมีความคิดเห็นสอดคล้องกับกลอเบอร์ โดยกล่าวว่า แม้การผลิตเอธานอลทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่ก็จะทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันดิบลดน้อยลง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน