ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.04 แนวโน้มอ่อนค่า หวั่นสงครามการค้ารอบใหม่-รอลุ้นตัวเลขเงินเฟ้อไทย

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 3, 2025 17:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 34.04 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจาก ช่วงเช้า ที่เปิดตลาดที่ระดับ 34.03 บาท/ดอลลาร์

โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.96-34.15 บาท/ดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่าตามสกุลเงินอื่นในภูมิภาค เนื่อง จากตลาดในภาพรวมปิดรับความเสี่ยง จากความกังวลของสงครามการค้ารอบใหม่ จากที่ประธานาธิบดีสหรัฐ "โดนัล ทรัมป์" ลงนามในคำ สั่งเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 10% รวมทั้งเม็กซิโก และแคนาดา 25% โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ.นี้

คืนนี้ ตลาดรอดูดัชนีภาคการผลิตสหรัฐ เดือนม.ค. จาก ISM นอกจากนี้ ตลาดยังติดตามนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่จะ ทยอยออกมาอีกในช่วงนี้ รวมทั้งรอดูการรายงานอัตราเงินเฟ้อเดือนม.ค.ของไทยวันพฤหัส ซึ่งหากเงินเฟ้อยังออกมาต่ำ ก็มีโอกาสที่จะได้ เห็นการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เดือนก.พ.นี้

นักบริหารเงิน มองเงินบาทยังมีแนวโน้มไปในทิศทางอ่อนค่า คาดพรุ่งนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.90-34.20 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 155.05 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 155.80 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0234 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0238 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,304.39 จุด ลดลง 10.11 จุด (-0.77%) มูลค่าซื้อขาย 54,272.58 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 317.14 ล้านบาท
  • ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุน (FETCO) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า ปั่นป่วนทั่วโลก ... ด้วยมือ Trump !!!
วันที่ 2 ของสงครามการค้าโลก จุดจบของ USMCA ที่เคยเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดของโลกที่เริ่มเมื่อปี 1994 ในชื่อ NAFTA จุดเริ่ม
ต้นของความปั่นป่วนของตลาดการเงินโลก
  • นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน "Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 กล่าวว่า
การท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย ดังนั้น รัฐบาลจึงพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจในทุกมิติ โดยการท่องเที่ยวจะมีผล
อย่างมาก ทำให้ประเทศไทยมี GDP ที่สูงขึ้นจากการใช้จ่ายของการท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้เกิดการจ้างงาน ทำให้ประเทศไทยมีโอกาสที่ดี
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนม.ค.68 อยู่ที่ระดับ 48.5 ทรงตัวจาก
48.4 ในเดือนธ.ค.67 ตามองค์ประกอบด้านคำสั่งซื้อที่ปรับเพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนปรับลดลง สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นในภาคการผลิตปรับเพิ่ม
ขึ้น แต่มาจากกลุ่มผลิตเหล็กเป็นหลัก
  • KKP Research โดยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร เผยตั้งแต่หลังวิกฤติการระบาดโควิด-19 เศรษฐกิจไทยยังคง
เติบโตได้ช้าและต่ำกว่าระดับศักยภาพ การเติบโตที่แตกต่างกันมากในแต่ละภาคส่วนของเศรษฐกิจ เป็นเหตุผลที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
จำกัดอยู่เพียงกลุ่ม ในขณะที่หลายกลุ่มโดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมอาจเรียกว่าอยู่ในภาวะถดถอย ในช่วงปี 67 ที่ผ่านมา หลายฝ่ายหวังว่า
แรงส่งทางบวกจะเอาชนะผลด้านลบโดย 3 ปัจจัยบวกที่สำคัญ คือ (1) การแจกเงินจากภาครัฐ (2) การส่งออกที่เติบโตได้ดี (3)
จำนวนนักท่องเที่ยวที่เติบโตได้ตามที่ประเมินไว้
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยอมรับว่า มาตรการขึ้นภาษีนำเข้าครั้งใหญ่ที่ใช้กับเม็กซิโก แคนาดา และจีน
อาจทำให้ชาวอเมริกันต้องเจอกับความยากลำบากในช่วงแรก สอดคล้องกับความกังวลของตลาดการเงินทั่วโลก ที่มองว่ามาตรการนี้ จะฉุด
รั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจ และอาจทำให้เงินเฟ้อสหรัฐพุ่งกลับมาอีกครั้ง
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของยูโรโซน ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 46.6 ในเดือนม.ค. จาก 45.1
ในเดือนธ.ค. โดยยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 มาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2565 ชี้ว่า อุตสาหกรรมการผลิตในยูโรโซน เริ่มส่งสัญญาณการทรงตัว
ในช่วงต้นปี โดยบริษัทต่าง ๆ ไม่ได้กังวลมากนักกับต้นทุนที่พุ่งสูงขึ้ นและความเสี่ยงจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ และมีมุมมองที่ดีขึ้นต่อ
แนวโน้มในอนาคต
  • รมว.เศรษฐกิจของสเปน เปิดเผยว่า สหภาพยุโรป (EU) จะต้องผนึกกำลังกัน เพื่อตอบสนองต่อมาตรการภาษีของ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าว มีขึ้นหลังประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้า
กับสหภาพยุโรป (EU) แน่นอน แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะเก็บภาษีในอัตราเท่าใด และเมื่อใด
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานสรุปความคิดเห็น (Summary of Opinions) ของกรรมการ BOJ โดยระบุ
ว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 23-24 ม.ค.68 กรรมการ BOJ ได้หารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ขณะที่
กรรมการบางคน เตือนถึงความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะอยู่ในช่วงขาขึ้น และการอ่อนค่าของเงินเยน อาจจะส่งผลกระทบต่อ
เศรษฐกิจ
  • นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) คาดการณ์ว่า มาตรการภาษีนำเข้าครั้งใหม่ที่ประธานาธิบดีโดนัล

ด์ ทรัมป์ ประกาศเรียกเก็บจากแคนาดา เม็กซิโก และจีนนั้น จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน และก๊าซในตลาดโลกไม่มากนัก โดยจะเป็นผล

กระทบในระยะสั้น เนื่องจากการผลิต และอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกยังคงมีเสถียรภาพ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ