ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.88 กลับมาแข็งค่า รับดอลลาร์อ่อนค่าหลังสหรัฐฯชะลอขึ้นภาษีเม็กซิโก-แคนาดา

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 4, 2025 09:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 33.88 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.04 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังตลาดคลายความกังวล เกี่ยวกับผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าได้ชั่วคราว จากความคืบหน้าในการเจรจาล่าสุดที่ทางสหรัฐฯ ชะลอเวลาปรับขึ้นภาษีนำเข้า สินค้าจากเม็กซิโกและแคนาดาออกไปอีก 1 เดือน รวมทั้งติดตามการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ยังไม่มีความคืบหน้า

ส่วนปัจจัยในประเทศรอดูกระแสเงินทุนระหว่างประเทศในตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้น รวมถึงการค้าทองคำ

"บาทกลับมาแข็งค่าจากเย็นวานนี้ หลังดอลลาร์ย่อตัวอ่อนค่าเนื่องจากตลาดคลายกังวลเรื่องสงครามการค้าชั่วคราว ช่วงนี้ ตลาดติดตามความคืบหน้าเรื่องสงครามการค้าเป็นหลัก" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.80 - 34.00 บาท/ดอลลาร์

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 33.86500 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 155.30 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ระดับ 155.05 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0316 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0234 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.068
บาท/ดอลลาร์
  • ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 68 คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่ต่ำกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย อยู่ที่ 2.4% โดย
การบริโภคและการส่งออกภาคเอกชนจะยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักทางเศรษฐกิจ แม้ว่าจะมีการเติบโตน้อยลงและการใช้จ่ายของรัฐบาลจะ
สูงขึ้น แต่เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ได้แก่ หนี้ครัวเรือนที่สูง ประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ที่เข้มข้นขึ้น และภาวะ
เศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มอ่อนแอลง
  • นายกฯประกาศเปิดปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ดึงนักท่องเที่ยวตลอดปี ดัน
รายได้แตะ 3.5 ล้านล้าน
  • สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ปรับตัว
ขึ้นสู่ระดับ 50.9 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2565 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.8
จากระดับ 49.2 ในเดือนธ.ค.
  • เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.2 ใน
เดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2567 จากระดับ 49.4 ในเดือนธ.ค. โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของการจ้างงาน
และคำสั่งซื้อใหม่ ขณะที่ความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 34 เดือน ท่ามกลางความคาดหวังว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัม
ป์ จะออกมาตรการที่เอื้อต่อภาคธุรกิจ
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศชะลอแผนการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกในอัตรา 25% ออกไปอีก 1
เดือน ภายหลังจากที่ปธน.คลอเดีย เชนบาม ผู้นำเม็กซิโก ยินยอมที่จะส่งกำลังทหารจำนวน 10,000 นายไปประจำการตามแนวชายแดน
ตอนเหนือเพื่อป้องกันการลักลอบนำยาเสพติดจากเม็กซิโกเข้าสู่สหรัฐฯ โดยเฉพาะยาเฟนทานิล
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (3 ก.พ.)
ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1
ปี ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (3 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์
ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะก่อให้เกิดเงินเฟ้อและส่งผล
กระทบต่อเศรษฐกิจ
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ วันนี้ ได้แก่ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนธ.
ค. และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค.
  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์
คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 256,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. และ
คาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ในเดือนม.ค.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ