นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) กล่าวภายหลังการประชุมในวันนี้ว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีสัญญาณบ่งชี้ที่ชัดเจนมากขึ้นว่าจะชะลอตัวลง และทางธนาคารจะจับตาดูว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงจะส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายเรื่องเงินทุนหรือไม่
นอกจากนี้ ผู้ว่าบีโอเจยังได้กล่าวถึงตลาดการเงินทั่วโลกว่ายังคงอยู่ในสภาพที่ผันผวน ส่วนภาวะขาดทุนอันเนื่องมาจากการลงทุนในธุรกิจการปล่อยกู้เพื่อการจำนองแก่ลูกค้าที่มีความน่าเชื่อถือต่ำของญี่ปุ่นนั้น ไม่มีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบต่อระบบการธนาคารของญี่ปุ่น
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า นายชิรากาว่ากล่าวต่อไปว่า มุมมองด้านลบแบบสุดขั้วเกี่ยวกับวิกฤตสินเชื่อนั้นก็คลี่คลายลงแล้วในระดับหนึ่งเช่นกัน
ผู้ว่าบีโอเจ กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในญี่ปุ่นนั้นเป็นสถานการณ์ที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากการขยายตัวด้านรายได้และการลงทุนของบริษัทญี่ปุ่นทรงตัว และปัจจัยเสี่ยงเรื่องเงินเฟ้อก็มีมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น
นายชิรากาว่ากล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า การส่งออกของญี่ปุ่นขยายตัวไปทั่วโลก แต่แนวโน้มของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมยังทรงตัว การขยายตัวด้านกำไรของบริษัทเอกชนก็อยู่ในระดับปานกลาง และการขยายตัวด้านการลงทุนก็ชะลอตัวลง เราจำเป็นต้องประเมินว่า การขยายตัวของรายในอัตราที่ชะลอตัวลงอันเนื่องมาจากสภาพการค้าที่ซบเซาจะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงขาลงต่อความต้องการของภาคเอกชนภายในประเทศหรือไม่ และจะกระทบต่อการลงทุนด้านเงินทุนของบริษัทเอกชนในรูปแบบใด แต่รูปแบบของความต้องการภายในของแต่ละประเทศจะตอบสนองต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้นนั้นคงจะแตกต่างกันไป
สำหรับมุมมองที่เป็นลบเรื่องวิกฤตสินเชื่อที่คลี่คลายลงในระดับหนึ่งนั้น ตลาดเงินและทุนทั่วโลกโดยรวมยังคงผันผวน ธนาคารกลางญี่ปุ่นจึงมีภารกิจในการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศพันธมิตรการค้าที่สำคัญของญี่ปุ่นว่า วงจรวิกฤตจะเกิดขึ้นอีกในสหรัฐหรือไม่
นอกจากนี้ นายชิรากาว่ากล่าวว่า จะประเมินด้วยว่าเหตุแผ่นดินไหวในจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนอย่างไรบ้าง เนื่องจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีนเป็นปัจจัยที่ผลักดันเศรษฐกิจโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--