ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.66/67 แข็งค่าตามภูมิภาค คาดกรอบวันนี้ 33.50-33.80

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 5, 2025 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ อยู่ที่ระดับ 33.66/67 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ปิดตลาดเย็นวานนี้ ที่ระดับ 33.86 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทและสกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาคเช้านี้แข็งค่าขึ้น เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่า หลังเมื่อคืนนี้ ตัวเลขการเปิด รับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนธ.ค. ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ และต่ำกว่าเดือนก่อนหน้า ประกอบกับ ราคาทองคำในตลาดโลกพุ่งทำ All Time High จากความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่มีการตอบโต้กัน

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ต้องติดตามวันนี้ ได้แก่ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม. ค., ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) และตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.

นอกจากนั้น ในช่วงนี้ยังต้องติดตามความคืบหน้าเรื่องการเจรจากำแพงภาษีระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจับตา ราคาทองคำด้วย

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 33.50 - 33.80 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 153.60 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ระดับ 155.25 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0370 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0344 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.900 บาท/ดอลลาร์
  • ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัท หลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยอยู่ใน
ภาวะตกต่ำจนใกล้สุกงอม จากอัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าตามบัญชี (P/BV) อยู่ระดับต่ำ คล้ายช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์
และวิกฤตโควิด-19 รวมถึงมูลค่าซื้อขายลดลงเกือบ 60% จากจุดสูงสุด และสภาพคล่องในตลาดลดลงต่อเนื่องช่วง 3 ปี โดยแนวรับเดือน
ก.พ. อยู่ที่ 1,300 จุด แนวรับต่ำอยู่ที่ 1,270-1,280 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,340 จุด และ 1,365-1,370 จุด
  • ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) คาดว่า ในปี 2568 การส่งออกของไทยจะขยายตัวได้ 1-3%
หรือมีมูลค่า 3.05 แสนล้านดอลลาร์ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด ได้แก่ นโยบายการค้าของสหรัฐฯ, ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์, ค่า
เงินบาทที่ผันผวน เป็นต้น
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (4 ก.
พ.) ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันอังคาร (4 ก.พ.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่
นักลงทุนเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากจีนตอบโต้สหรัฐฯ ด้วยการประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ระบุ "ไม่มีปัญหา" ที่จีนตัดสินใจปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าบางรายการจากสหรัฐฯ
เพื่อตอบโต้ที่สหรัฐฯ เรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% จากสินค้าจีน และกล่าวว่า เขาไม่รีบเร่งที่จะพูดคุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ก่อน
ที่มาตรการภาษีใหม่ต่อสินค้าจีนทั้งหมดของรัฐบาลทรัมป์จะมีผลบังคับใช้
  • ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็น
มาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน ลดลง 556,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 7.6 ล้านตำแหน่งในเดือนธ.ค.67 จากระดับ 8.156 ล้านตำแหน่ง
ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 8.0 ล้านตำแหน่ง
  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนม.ค.ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้
แนวโน้มตลาดแรงงานและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาค
เกษตรจะเพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 4.1% ในเดือนม.ค.
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยวันนี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก ADP, ยอดนำเข้า

ส่งออก และดุลการค้าเดือนธ.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนม.ค. และดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.จาก

สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ