นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการโอนเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต โดยยืนยันว่า การโอนเงินในเฟสที่ 3 จะดำเนินการได้ภายในไตรมาส 2/68 อย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้กรอบการดำเนินโครงการมีความชัดเจนแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการเชื่อมโยงระบบในลักษณะ Open Loop ที่ได้หารือกับสถาบันการเงินและดำเนินการไปแล้ว โดยตัวระบบน่าจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ในช่วงของการทดสอบ
ทั้งนี้ ภายในเดือน ก.พ.นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีการหารือในที่ประชุม เพื่อสรุปความชัดเจนในการดำเนินการอีกครั้ง
รมช.คลัง ย้ำว่า รัฐบาลมีเม็ดเงิน 1.57 แสนล้านบาท ซึ่งเพียงพอรองรับการโอนเงินหมื่นในเฟส 3 ส่วนจำนวนที่แน่นอนของผู้ได้รับสิทธินั้น ต้องรอดูความชัดเจนเอีกครั้ง เพราะจากข้อมูลเบื้องต้น มีผู้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ราว 35-36 ล้านคน ซึ่งในส่วนนี้ มีกลุ่มที่รัฐบาลได้ดำเนินการโอนเงินไปแล้ว ทั้งกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มผู้สูงอายุ ดังนั้นในส่วนที่เหลือก็ต้องมาพิจารณาคุณสมบัติตามเงื่อนไขของโครงการ ซึ่งอาจจะมีบางส่วนที่ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับสิทธิ
ขณะที่กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟนนั้น ยืนยันว่าจะมีกระบวนการในการเปิดรับลงทะเบียนอย่างแน่นอน
นายจุลพันธ์ ยังกล่าวถึงผลของโครงการภายหลังโอนเงิน 10,000 บาทไปแล้ว 2 เฟส ว่า ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยจากการสำรวจข้อมูลของหน่วยงานที่รับผิดชอบ พบว่า มีตัวเลขการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจที่ดี ประชาชนที่รับเงินไปทั้ง 2 กลุ่ม ได้นำเงินไปใช้ในการลงทุนประกอบอาชีพ และซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค
"ต้องยอมรับว่า กลุ่มนี้เมื่อได้รับเงินไป จะเกิดประโยชน์อย่างมากในการประคับประคองชีวิต และมีโอกาสในการใช้จ่าย เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจสูงมาก สะท้อนผลลัพธ์ที่รัฐบาลพอใจ" รมช.คลัง กล่าว
สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ที่ประชุมจะหารือถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่น ๆ ด้วย โดยยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะการโอนเงิน 10,000 บาทเพียงอย่างเดียว ซึ่งมาตรการกระตุ้นอื่น ๆ นั้น ส่วนงานที่ได้รับมอบหมายทั้งหมด จะได้นำเสนอให้คณะอนุกรรมการด้านการกระตุ้นเศรษฐกิจพิจารณาก่อน ว่าจะใช้กลไกใดในการดำเนินการ และหลังจากนั้น จึงจะนำเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้