ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เดินหน้าโครงการชะลอการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังปี 2567/68 ตามนโยบายรัฐบาล เพื่อชะลอการเก็บเกี่ยวผลผลิตเป็นระยะเวลา 6 เดือน ในช่วงที่มันสำปะหลังออกสู่ตลาดจำนวนมาก ซึ่งจะช่วยรักษาระดับราคาเพิ่มผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อการเพาะปลูกให้แก่เกษตรกร โดยเกษตรกรยังคงมีเงินหมุนเวียนเพื่อใช้จ่ายในครัวเรือนในช่วงชะลอการเก็บเกี่ยว ครัวเรือนละไม่เกิน 2,500 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน รวมครัวเรือนละไม่เกิน 50,000 บาท เกษตรกรชำระอัตราดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี พร้อมให้ขยายเวลาชำระหนี้เดิมสำหรับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวออกไปไม่เกิน 6 เดือน
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2568 ได้มีมติเห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการชะลอการเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังปี 2567/68 ตามนโยบายรัฐบาล วงเงินสินเชื่อรวม 10,787.50 ล้านบาท เพื่อชะลอการเก็บเกี่ยวผลผลิตมันสำปะหลังเป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งถือเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดกระจุกตัว ส่งผลให้ราคามันสำปะหลังลดต่ำลง และไม่คุ้มค่ากับการเพาะปลูก โดยเกษตรกรสามารถนำเงินไปใช้เป็นเงินหมุนเวียนและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในครัวเรือนระหว่างรอการเก็บเกี่ยว
ทั้งนี้ ธนาคารจะทำการตรวจสอบพื้นที่เพาะปลูก เพื่อให้สินเชื่อตามมูลค่าพื้นที่ส่วนที่ยังไม่ดำเนินการเก็บเกี่ยว ให้กู้ครัวเรือนละไม่เกิน 2,500 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 20 ไร่/ครัวเรือน วงเงินสินเชื่อรวมไม่เกิน 50,000 บาท/ครัวเรือน โดยเกษตรกรชำระอัตราดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี ส่วนที่เหลือรัฐบาลรับภาระชดเชยดอกเบี้ยแทนเกษตรกรและให้ผ่อนชำระเป็นระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือนนับตั้งแต่วันกู้ ทั้งนี้ ไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2568
สำหรับผู้ที่เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกมันสำปะหลังกับกรมส่งเสริมการเกษตร และยังไม่ได้เก็บเกี่ยวผลผลิต ปีการผลิต 2567/68 ซึ่งเกษตรกรมีสิทธิ์เข้าถึงมาตรการในครั้งนี้ได้มากกว่า 215,000 ครัวเรือน โดยเกษตรกรที่เข้าโครงการพักชำระหนี้ให้กับลูกหนี้รายย่อยตามนโยบายของรัฐบาลสามารถเข้าโครงการนี้ได้เช่นกัน นอกจากนี้ ธนาคารยังเปิดให้เกษตรกรลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อเพื่อปลูกมันสำปะหลัง ฤดูกาลผลิตปี 2567/68 สามารถขอขยายระยะเวลาชำระหนี้เดิมออกไปได้ไม่เกิน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่กู้เงินตามโครงการแต่ไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2568 เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการที่อาจมีรายได้ไม่เพียงพอชำระหนี้ตามกำหนดเนื่องจากชะลอการเก็บเกี่ยวตามเงื่อนไขของโครงการ