นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบขยายโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" ให้ลูกหนี้รายย่อยของ Non-Banks ภายใต้โครงการ "คุณสู้ เราช่วย" 2 มาตรการ ดังนี้
- มาตรการที่ 1 "จ่ายตรง คงทรัพย์" ช่วยลูกหนี้ค้างชำระ ณวันที่ 31 ต.ค. 67 ของ Non-Banks ในสินเชื่อรถยนต์วงเงินไม่เกิน 800,000 บาท สินเชื่อรถจักรยานยนต์วงเงินไม่เกิน 50,000 บาท สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับที่มีวงเงินรวมไม่เกิน 100,000 หรือไม่เกิน 200,000 บาท ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละแห่ง สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล ที่มีวงเงินรวมไม่เกิน 20,000 บาท และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ที่มีวงเงินรวมไม่เกิน 50,000 บาท
"โดยมาตรการนี้ จะลดภาระผ่อนชำระ 3 ปี เหลือเพียง 70% และลดดอกเบี้ยให้ 10% ตลอดระยะเวลา 3 ปี โดยพักดอกเบี้ยส่วนที่ลดให้ และยกเว้นให้เลย หากลูกหนี้ทำตามเงื่อนไขได้" นายเผ่าภูมิ ระบุ
- มาตรการที่ 2 "จ่าย ปิด จบ" ช่วยลดภาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ Non-Banks บุคคลธรรมดาที่เป็นหนี้เสีย แต่มียอดคงค้างหนี้ไม่เกิน 5,000 บาท โดยให้ลูกหนี้ชำระหนี้เพียง 10% เพื่อปิดหนี้ได้ทันที
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง จัด Soft Loan สำหรับ Non-Banks ของธนาคารออมสิน วงเงินรวม 50,000 ล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี และกำหนดให้วงเงินสินเชื่อของ Non-Banks แต่ละรายขึ้นอยู่กับการสูญเสียรายได้ของ Non-Banks แต่ละแห่ง ที่เกิดจากการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ครั้งนี้
"โครงการ "คุณสู้ เราช่วย" จะช่วยแก้หนี้ และดูแลความเป็นอยู่ของลูกหนี้ให้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น และปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนแบบเข้มข้นของรัฐบาล รัฐบาลได้ขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าโครงการคุณสู้ เราช่วย เฟสแรกไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย.68 เช่นเดียวกับมาตรการที่ออกมาสำหรับลูกหนี้ Non-Banks ที่จะเป็นโครงการช่วยแก้หนี้ ดูแลความเป็นอยู่ของลูกหนี้ให้มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้น และปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนแบบเข้มข้นของรัฐบาล" นายเผ่าภูมิ กล่าว
รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลไม่ได้กังวลว่าการเร่งผลักดันโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนของประชาชนนั้น จะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ลูกหนี้ที่ดีจงใจผิดนัดชำระหนี้ (Moral Hazard) เนื่องจากโครงการมีการตัดเกณฑ์หนี้ค้างชำระชัดเจน ดังนั้นลูกหนี้จะแกล้งป่วยคงไม่ทันแล้ว และนี่เป็นโครงการเพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนครั้งใหญ่ครั้งเดียว ที่ดำเนินการครอบคลุมทั้งลูกหนี้ของธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และ Non-Banks ซึ่งถือเป็นความตั้งใจของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีประชาชนสมัครเข้าร่วมโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" เฟสแรก ไม่มาก เพราะมีการตั้งเกณฑ์ที่เข้มข้นเกินไปนั้น นายเผ่าภูมิ ยืนยันว่า เกณฑ์ไม่ได้เข้มข้นเกินไป และปัจจุบันมีประชาชนสมัครเข้าโครงการเกือบล้านคนแล้ว ส่วนเกณฑ์ที่ตั้งมานั้น เป็นการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา Moral Hazard และต้องการจะช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนจริง ๆ เท่านั้น
ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) อยู่ระหว่างการพิจารณาสร้างกลไกเพื่อเข้ามาช่วยลดความเสี่ยงให้ประชาชนในกระบวนการขอสินเชื่อรถยนต์ โดยเฉพาะรถกระบะ ที่ต้องยอมรับว่าปัญหาที่เกิดในสินเชื่อรถยนต์ขณะนี้ ไม่ได้อยู่ที่กำลังซื้อของประชาชน แต่อยู่ที่สภาพคล่อง และเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อที่อาจจะใช้เกณฑ์ในการประเมินความเสี่ยงอย่างระมัดระวังเกินไป
"เรื่องนี้ อยู่ในกระบวนการที่จะต้องคุยหลายฝ่าย เพราะลิสซิ่งไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง หรือธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดังนั้นการจะทำอะไรจึงยากพอสมควร ก็ต้องมาขอความร่วมมือ สร้างแรงจูงใจ สร้างกลไกในการช่วยลดความเสี่ยงให้ประชาชนผ่านกระบวนการใด ๆ ก็ว่ากันไป รายละเอียดอยากให้รอดู ตอนนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งทำงานร่วมกันอยู่ ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้ไม่ง่าย แต่ก็ยืนยันว่าอยู่ในกระบวนการ" นายเผ่าภูมิ กล่าว