ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 34.06 อ่อนค่าตามภูมิภาค เกาะติดถ้อยแถลงปธ.เฟด จับสัญญาณทิศทางดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 11, 2025 17:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 34.06 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้า เปิดตลาดที่ระดับ 33.96 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.96-34.12 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทอ่อนค่าตามสกุลเงินในภูมิภาค จากความ กังวลนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐ

สำหรับคืนนี้ นักลงทุนติดตามนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงการณ์รอบครึ่งปี ว่าด้วย นโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อสภาคองเกรส เพื่อหาสัญญาณของทิศทางดอกเบี้ยนโยบายเฟดในปีนี้ โดยคืนนี้ จะเป็นการ แถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคาร ประจำวุฒิสภา ส่วนคืนวันที่ 12 ก.พ. จะแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงิน ประจำสภาผู้แทน ราษฎร

นักบริหารเงิน คาดว่า ช่วงปลายสัปดาห์ เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.80-34.15 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 151.95 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 151.87 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0318 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0300 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,283.97 จุด เพิ่มขึ้น 13.48 จุด (+1.06%) มูลค่าซื้อขาย 39,035.49 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,029.52 ล้านบาท
  • รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง มีนโยบายที่จะปรับปรุงเงื่อนไขกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ใหม่เพื่อให้มี
ความเหมาะสม และดึงดูดนักลงทุนได้มากขึ้น จากปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 1.8 แสนล้านบาท ซึ่งอาจจะโอนหรือจัดตั้งใหม่มาอยู่ใน Thai
ESG
  • ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index: ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปรับขึ้นมาอยู่ใน
เกณฑ์ "ทรงตัว" อยู่ที่ระดับ 91.78 โดยนักลงทุนมองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลง
มา คือ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน และการไหลเข้าของเงินทุน ขณะที่ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่น คือ การไหลออกของเงินทุน การถด
ถอยของเศรษฐกิจในประเทศ และสถานการณ์เศรษฐกิจจีน
  • วิจัยกรุงศรี คาดเงินเฟ้อไตรมาส 1/2568 อยู่ในกรอบเป้าหมายที่ 1-3% แต่เฉลี่ยทั้งปียังอยู่ใกล้ขอบล่าง เปิดโอกาสให้
กนง. ปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ มาอยู่ที่ระดับ 2.0% จากปัจจุบันที่ 2.25% ท่ามกลางสงครามทางการค้าที่รุนแรงขึ้น
  • สภาทองคำโลก เผยภาพรวมความต้องการทองคำทั่วโลก ปี 67 โดยเปิดเผยข้อมูลที่รวมปริมาณการซื้อขายทองคำนอก
ตลาดหลักทรัพย์ (Over-the-counter: OTC) ซึ่งทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ 4,974 ตัน ขณะที่ประเทศไทย ก้าวขึ้นเป็น
ตลาดทองคำที่มีความแข็งแกร่งในปี 67 และมีปริมาณความต้องการทองคำแท่ง และเหรียญทองคำ สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก ที่ 39.8 ตัน
คิดเป็นการเติบโตสูงถึง 17% จากปีก่อน
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมประกาศมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ราว
วันที่ 11-12 ก.พ. นี้ (ตามเวลาสหรัฐฯ) ซึ่งเป็นที่น่าจับตาว่า ไทยอาจเป็นหนึ่งในเป้าหมายการเรียกเก็บภาษีของทรัมป์ในครั้งนี้ เมื่อ
พิจารณาจากการที่ไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงระดับ 2
  • ค่าเงินดองของเวียดนามร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังธนาคารกลางเวียดนาม
ปรับลดอัตราอ้างอิงลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 โดยเงินดองอ่อนค่าลง 0.5% มาอยู่ที่ 25,516 ดอง/ดอลลาร์สหรัฐในวันนี้ ซึ่งต่ำกว่าสถิติเดิมที่
เคยทำไว้เมื่อเดือนธ.ค.67
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนม.ค.,

หนี้ภาคครัวเรือนประจำไตรมาส 4/2567, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนี

ราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค., ยอดค้าปลีกเดือนม.ค. เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ