"มิ่งขวัญ"เผยตะวันออกกลางต้องการข้าวหอมมะลิไทย ยันไม่ปูดออร์เดอร์มั่ว

          นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ นายฮัสซัน อับดุลลา ซาโก รมว.อุตสาหกรรมและพาณิชย์ ประเทศบาห์เรน ในฐานะตัวแทนกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง คือ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ซาอุดิอาระเบีย, บาห์เรน, กาตาร์, โอมาน และคูเวต ซึ่งต้องการเจรจาซื้อข้าวหอมมะลิจากไทยจำนวนมาก โดยทั้ง 6 ประเทศ จะหารือร่วมกันให้ชัดเจนอีกครั้งว่าต้องการซื้อข้าวจากไทยจำนวนเท่าใด
          "หลายประเทศทยอยเจรจาซื้อข้าวจากไทย ทั้งหารือโดยตรงระหว่างรัฐกับรัฐ และเจรจากับเอกชนไทย สำหรับคำสั่งซื้อข้าวทั้งหมดมีจำนวนมาก แต่คงไม่สามารถเปิดเผยจำนวนได้ เพราะบางประเทศไม่ต้องการให้เปิดเผย เนื่องจากอาจมีปัญหาความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งการจำหน่ายข้าวคงต้องขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ทางการค้าร่วมกันด้วย" นายมื่งขวัญ ระบุ
          ทั้งนี้ยอมรับว่าปริมาณข้าวนาปรังที่ออกช่วงนี้ เดิมคาดการณ์จะมี 6.5 ล้านตันข้าวเปลือก ซึ่งสีเป็นข้าวสารประมาณ 4.2 ล้านตันข้าวสาร อาจลดลงจากคาดการณ์เดิมเล็กน้อยเพราะมีปัญหาฝนตกในช่วงนี้ แต่บาห์เรนต้องการร่วมทำการค้ากับไทยและพร้อมเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าของไทยไปยัง 6 ประเทศตะวันออกกลาง รวมทั้งต้องการรับซื้อไก่สดแช่แข็ง เนื้อสัตว์ กุ้ง และน้ำตาล เป็นจำนวนมาก
         สำหรับสถานการณ์ราคาข้าวในขณะนี้เกษตรกรยังสามารถจำหน่ายข้าวได้ราคาสูง แต่ต้องยอมรับในบางพื้นที่ที่มีฝนตกทำให้ความชื้นข้าวมีความชื้นสูง เกษตรกรจึงมีปัญหาในเรื่องของการรับซื้อจากโรงสีบ้าง โดยรัฐบาลได้ทยอยรับซื้อข้าวจากเกษตกรเพื่อกำหนดราคาข้าวแล้ว 
          นายมิ่งขวัญ กล่าวว่า สำหรับคำสั่งซื้อข้าวจาก 8 ประเทศ จำนวน 6.7 ล้านตันนั้น รัฐบาลไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นเรื่องของความมั่นคงของแต่ละประเทศ โดยไทยยังคงเป็นประเทศเดียวที่มีการส่งออกข้าวเสรี โดยในปีนี้คาดว่าจะมีการส่งออกได้มากกว่า 9 ล้านตัน และยืนยันว่ากระทรวงพาณิชย์จะดูแลไม่ให้เกิดความขาดแคลนสำหรับการบริโภคในประเทศแน่นอน
          ด้าน พล.ต.ท.วิเชียรโชติ สุกโชติรัตน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ในการเดินทางไปเยือนฟิลิปปินส์ของนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 22-23 พ.ค.นี้ จะมีการเจรจาเรื่องการขายข้าวให้กับฟิลิปปินส์ด้วย โดยไทยจะเจราจากับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเพื่อหาทางอำนวยความสะดวกให้เช่นเดียวกับมาเลเซียและประเทศติมอร์ฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ฟิลิปปินส์ได้แสดงความต้องการขอซื้อข้าวคุณภาพต่ำซึ่งมีราคาถูกในลักษณะรัฐบาลต่อรัฐบาล แต่ไทยไม่มีการขายข้าวในลักษณะนี้แต่อย่างใด