
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึง ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ว่า โครงการก่อสร้างต่าง ๆ มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ล่าสุดมีความก้าวหน้า 87.06% ทุกสัญญางานโยธาจะแล้วเสร็จภายใน พ.ย.68 และจะพิจารณาเปิดให้ประชาชนใช้บริการต่อไป
ขณะที่โครงการมอเตอร์เวย์ หมายเลข 82 สายบางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว (M82) ระยะทาง 25 กม. ขณะนี้ช่วงบางขุนเทียน-เอกชัย 3 สัญญา คืบหน้าแล้ว 98.42% และช่วง เอกชัย-บ้านแพ้ว 10 สัญญา คืบหน้าแล้ว 70.60% คาดว่างานโยธาจะแล้วเสร็จในช่วง พ.ย.68 ส่วนงานระบบอยู่ระหว่างคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนคาดสรุปภายในปี 68-69 และจะเริ่มก่อสร้าง รวมถึงดำเนินการงานด้านระบบปี 69 คาดแล้วเสร็จปี 71 เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการต่อไป ระหว่างที่ดำเนินการงานระบบจะเปิดให้ประชาชนวิ่งโดยไม่คิดค่าธรรมเนียมผ่านทาง
นายสุริยะ กล่าวถึงโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ทั้งหมด 5 สัญญา ความก้าวหน้า ณ เดือน ม.ค.68 แบ่งเป็น สัญญาที่ 1 คืบหน้า 81.70% สัญญาที่ 2 คืบหน้า 94.72% และสัญญาที่ 3 คืบหน้าแล้ว 83.78% สัญญาที่ 4 เสร็จสิ้นพร้อมเปิดให้บริการแล้ว และสัญญาที่ 5 คืบหน้า 2.69%
ทุกสัญญาเร็วกว่าแผนเล็กน้อย และอยู่ในขั้นตอนของการเร่งรัดดำเนินการอย่างเต็มความสามารถ โดยการเพิ่มกำลังคนและเครื่องจักร เพื่อให้สามารถก่อสร้างเป็นไปตามแผนเร่งรัด เบื้องต้นมุ่งหวังให้ภายในปี 68 จะเปิดให้ประชาชนได้ใช้บริการ พร้อมย้ำทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยและต้องไม่มีผลกระทบต่อผู้ใช้ทางอย่างเด็ดขาด
นายสุริยะ กล่าวอีกว่า สืบเนื่องมาจากการก่อสร้างจำนวนมากบนถนนพระราม 2 จึงมีความเสี่ยงต่อปัญหาฝุ่น PM 2.5 กระทรวงคมนาคมดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด โดยได้สั่งการให้ ทล.นำรถบรรทุกน้ำออกพรมถนนและพื้นที่เกาะกลางที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง พร้อมทั้ง ฉีดล้างทำความสะอาดผิวจราจรช่องทางหลักและคู่ขนาน รวมถึงงานล้างทำความสะอาดและเก็บเศษดินบริเวณแนวแบริเออร์คอนกรีตและแผงผ้าใบ ทั้งนี้หากระดับปริมาณฝุ่นระออง PM 2.5 มีค่าเกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะต้องดำเนินการปล่อยฝอยละอองน้ำความดันสูง เพื่อดักจับฝุ่นละอองทั่วทุกพื้นที่ที่มีความเสี่ยง
ด้านนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีคานปูน (Segment) และโครงสร้างเหล็ก (Launching Gantry Crane) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 ที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 29 พ.ย.67 ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมุ่งเน้นการวิเคราะห์ข้อมูลทางวิศวกรรมอย่างละเอียดรอบด้าน พิจารณาจากหลักฐานและการวิเคราะห์ทางเทคนิค การให้ถ้อยคำของพยานบุคคลในช่วงเวลาเกิดเหตุ และปัจจัยที่เกี่ยวข้องในทุกด้าน
คณะกรรมการฯ ได้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 2 ประการ ได้แก่ 1. ภาวะไม่ปลอดภัยที่ตัวโครงสร้างเหล็ก (Launching Gantry Crane) และ 2. การกระทำที่ไม่ปลอดภัยที่มาจากการควบคุมการทำงานโดยบุคคล ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการฯ ได้สรุปเบื้องต้นแล้วว่า เกิดจาก การกระทำที่ไม่ปลอดภัยที่มาจากการควบคุมการทำงานโดยบุคคล โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการสอบสวนพยานเพิ่มเติม คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ภายใน 1 เดือน เพื่อให้ผลการสอบสวนมีความถูกต้อง และเป็นประโยชน์ต่อการป้องกันอุบัติเหตุในอนาคต และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน