ธนารักษ์ จัดทำราคาประเมินที่ดินใหม่คาดเริ่มใช้ปี 70-เร่งเพิ่มมูลค่าที่ราชพัสดุ

ข่าวเศรษฐกิจ Monday February 17, 2025 14:25 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการประเมินราคาที่ดินว่า ในอดีตจะมีการประเมินราคาที่ดินทั้งแบบรายบล็อกและรายแปลง แต่วันนี้ได้เปลี่ยนมาเป็นแบบรายแปลงทั้งหมด โดยจะมีการดึงเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะดาวเทียมเข้ามาช่วยเสริมศักยภาพในการประเมินราคาที่ดินทั้งประเทศ เช่น ที่ดินที่มีถนนตัดผ่าน ที่ดินตาบอด ราคาประเมินจะไม่เท่ากันอย่างชัดเจน ซึ่งจะได้เห็นในการประกาศราคาประเมินรอบใหม่ในปี 2570

การที่ราคาประเมินทำได้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากขึ้น จะช่วยสร้างมูลค่าให้กับที่ดิน และจะช่วยให้กับการจัดเก็บภาษีที่ดินเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย และจะมีประโยชน์มากขึ้นในกรณีที่มีการนำที่ดินไปใช้ในการขอสินเชื่อ ซึ่งก็จะมีผลดีในการทำให้สินเชื่อในระบบเติบโตมากขึ้นด้วย

นายเอกนิติ กล่าว่า กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างการจัดทำพิมพ์เขียว (มาสเตอร์แพลน) ซึ่งจะใช้เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนการทำงาน ทั้งในมิติของการดูแลและพัฒนาที่ราชพัสดุ การดูแลเรื่องเหรียญกษาปณ์ และการประเมินราคาที่ดิน ซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้จะมีการจัดทำกลยุทธ์กลางออกมา เพื่อตอบโจทย์ในการยกระดับมูลค่าเพิ่มของทรัพย์สินของรัฐ

ในส่วนที่ราชพัสดุนั้น กรมฯ ได้ให้ความสำคัญในการวางแผนบริหารจัดการเพื่อเพิ่มมูลค่าทั้งด้านรายได้และด้านวัฒนธรรม และเพื่อให้การพัฒนาที่ดินราชพัสดุในแต่ละพื้นที่สอดคล้องกับศักยภาพทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาเชิงเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม โดยคาดว่าจะมีการนำร่องยกระดับการพัฒนาในที่ดินราชพัสดุที่จังหวัดนครนายกเป็นจังหวัดแรก

ส่วนการบริหารจัดการที่ราชพัสดุ กรมฯ จะมีการบริหารร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ โดยการดึงที่ดินราชพัสดุที่มีศักยภาพและหมดอายุสัญญาเช่ากลับเข้ามาอยู่ในพอร์ต เพื่อบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์ที่เหมาะสมสูงที่สุด ซึ่งปัจจุบันมีที่ดินราชพัสดุอยู่ราว 12.5 ล้านราย ในส่วนนี้กรมฯ มีการบริหารจัดการเองราว 9.5 แสนไร่

"กรมฯ จะต้องไปดูว่าที่ดินราชพัสดุทั่วประเทศมีที่จะหมดอายุสัญญาเช่าเท่าไหร่ และเมื่อไหร่ โดยต้องประสานกับหน่วยงานว่าจะส่งคืนหรือจะมีการดำเนินการเช่าต่อ แต่จะต้องมีการพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับพื้นที่ โดยข้อมูลทั้งหมดอยู่ระหว่างการพิจารณา" นายเอกนิติ กล่าว

ส่วนเป้าหมายรายได้ในปีงบประมาณ 2568 อยู่ที่ 10,600 ล้านบาท เติบโตจากปีงบประมาณก่อนหน้า 5-10% ซึ่งมั่นในว่าจะทำได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน โดยแผนการทำงานหลังจากนี้กรมฯ จะไม่ได้เน้นแค่เรื่องเป้าหมายทางเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่จะให้ความสำคัญกับการสร้างอัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ (ROA) ด้วย โดยจะแบ่งการวัด ROA ในแต่ละด้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรมอย่างชัดเจน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ