วิจัยกรุงศรี เชื่อ ศก.ไทยปีนี้โตไม่ตามเป้า! เล็งหั่น GDP ลงจาก 2.9%

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday February 18, 2025 12:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

วิจัยกรุงศรี เตรียมปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยปี 2568 ลงจาก 2.9% เนื่องจาก 1. อุปสงค์ในประเทศอ่อนแอ ทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน 2. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ส่งผลบวกค่อนข้างจำกัด (เฟส 2 วงเงินเพียง 30,000 ล้านบาท และเหลือวงเงินอีก 1.57 แสนล้านบาท สำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในปีนี้) 3. จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ อาจไม่เป็นไปตามที่เคยคาดไว้ที่ 40 ล้านคน เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวช้า และ 4. หากสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้า อาจกระทบต่อการค้าและการส่งออกของไทย

พร้อมมองว่า ปัจจัยบั่นทอนและความเสี่ยงดังกล่าว เปิดทางให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 26 ก.พ.นี้ และหากไม่มีการปรับดอกเบี้ยในเดือนนี้ ยังมีโอกาสที่จะเห็นการปรับลดในเดือนเม.ย.68 หลังมีความชัดเจนเรื่องภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ

สำหรับความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. 68 ปรับขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 สู่ระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือน ที่ 59.0 จาก 57.9 ในเดือนธันวาคม ปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล การท่องเที่ยวในประเทศที่ปรับดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวก้บโอกาสในการหางาน รายได้ในอนาคต ตลอดจนค่าครองชีพที่ยังทรงตัวในระดับสูง

ทั้งนี้ แม้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับดีขึ้นต่อเนื่อง แต่นับว่ายังอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด (ปี 62 ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 75.5) ขณะที่แรงหนุนหลักจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่เน้นการใช้จ่ายในระยะสั้น อาทิ การแจกเงินสด 10,000 บาท เฟส 1 กับกลุ่มเปราะบาง (ราว 14 ล้านคน) และเฟส 2 แก่กลุ่มผู้สูงอายุ (กว่า 3 ล้านคน)

สำหรับแนวโน้มการบริโภคภาคเอกชนในปีนี้ วิจัยกรุงศรี คาดว่าจะเติบโตชะลอลงจากปีก่อน ๆ ส่วนหนึ่งได้รับแรงกดดันจากค่าจ้างที่แท้จริงที่อยู่ในระดับต่ำ โดยสูงกว่าค่าเฉลี่ยปี 2562 (ก่อนโควิด) เพียง 3.2% ประกอบกับปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งกระทบต่อความสามารถในการใช้จ่าย

โดยยังต้องติดตามผลจากมาตรการบรรเทาภาระหนี้ของลูกหนี้รายย่อย ผ่านโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" ซึ่งล่าสุด มีการขยายไปยังกลุ่มลูกค้านอนแบงก์ และขยายเวลาลงทะเบียน เพื่อเข้าร่วมโครงการออกไปเป็นสิ้นเดือนเม.ย. 68

* วิจัยกสิกรฯ คาด ศก.ปีนี้ โต 2.4%

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ไทยปี 2568 มีแนวโน้มชะลอลงเล็กน้อย อยู่ที่ 2.4% โดยคาดว่าการส่งออกในปีนี้ จะเติบโตชะลอลง แม้จะได้รับแรงสนับสนุนบางส่วนจากการเร่งนำเข้าสินค้า ก่อนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ประกอบกับวัฏจักรขาขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ แต่ไทยมีความเสี่ยงที่จะถูกสหรัฐฯ จัดเก็บภาษีในลำดับถัดไป เนื่องจากไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ในระดับสูง และมีการเก็บภาษีนำเข้าเฉลี่ยสูงกว่าสหรัฐฯ ซึ่งการปรับขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ มีแนวโน้มส่งผลให้การส่งออกไปสหรัฐฯ ลดลง ขณะที่การส่งออกไทยยังไปยังตลาดโลก มีแนวโน้มเผชิญการแข่งขันที่สูงขึ้นและอุปสงค์ที่ลดลง

ขณะที่การบริโภคภาคเอกชน มีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ชะลอลงจากปีก่อน แม้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล อาทิ มาตรการแจกเงิน 10,000 บาท และมาตรการลดหย่อนภาษี (Easy E-receipt 2.0) อาจช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้ในระยะสั้น อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคมีแนวโน้มใช้ความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ และหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง

ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 37.5 ล้านคน แต่อัตราการขยายตัวลดลงจากปีก่อนหน้า และมีความไม่แน่นอนจากแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ การแข่งขันด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ รวมถึงประเด็นภาพลักษณ์ด้านความปลอดภัยของไทย

ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน คาดว่าจะขยายตัวเร่งขึ้นจากเม็ดเงินการลงทุนจากต่างประเทศ ประกอบกับฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้า นอกจากนี้ การลงทุนและการบริโภคภาครัฐคาดว่าจะยังขยายตัวได้ดี แต่อัตราการขยายตัวอาจต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากฐานปี 2567 ที่ออกมาสูงกว่าที่คาด ประกอบกับการเบิกจ่ายงบรัฐวิสาหกิจที่คาดว่าลดลงในปีนี้

"การบริโภคภาคเอกชน การส่งออก และการท่องเที่ยว คาดว่าจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ แต่มีโมเมนตัมชะลอลง" ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุ

ล่าสุดวานนี้ (17 ก.พ.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย ไตรมาส 4/2567 ขยายตัวที่ 3.2% น้อยกว่าที่คาด โดยเป็นผลจากสินค้าคงคลังที่หดตัวจากมากกว่าที่คาด จากความความเชื่อมโยงระหว่างภาคการผลิตและการส่งออกที่ต่ำกว่าที่ประเมิน โดยแม้การส่งออกจะขยายตัวได้ดีในหลายสินค้า แต่การผลิตภาคอุตสาหกรรม ยังแทบจะไม่ขยายตัว ขณะที่การผลิตภาคเกษตรขยายตัวต่ำ จากผลของการปรับฐานในไตรมาส 4/2566 ให้สูงขึ้นกว่าเดิม จึงส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/2567 โตต่ำกว่าที่คาดไว้ ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยปี 67 เติบโตที่ 2.5% ส่วนปี 68 สภาพัฒน์ คาดโตได้ 2.8% (กรอบ 2.3-3.3%)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ