ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.67/69 ทรงตัวจากช่วงเช้า ตลาดไร้ปัจจัยใหม่ จับตารายงานประชุมเฟดคืนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday February 19, 2025 17:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 33.67/69 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากเปิดตลาด เมื่อเช้าอยู่ที่ระดับ 33.66/67 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทยังไร้ปัจจัยใหม่ เคลื่อนไหวในกรอบ 33.65 - 33.75 บาท/ ดอลลาร์ ทั้งนี้ เงินบาทเคลื่อนไหวเล็กน้อยตามราคาทองคำที่ปรับขึ้นลง

โดยคืนนี้ตลาดรอติดตามถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) พร้อมเปิดเผยรายงาน การประชุมประจำวันที่ 28-29 ม.ค. ซึ่งตลาดรอดูว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะเป็นอย่างไร

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.50 - 33.80 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 151.62/63 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 151.96/152.03 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0433/0434 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0442/0445 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,262.27 จุด เพิ่มขึ้น 4.79 จุด (+0.38%) มูลค่าซื้อขาย 52,665.03 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,057.96 ล้านบาท
  • นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน
หลังอัตราเงินเฟ้อไทยยังต่ำ และขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อให้กับภาคธุรกิจและประชาชนมากขึ้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง และ
เพื่อเป็นการเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการจัดตั้งกองทุน Thai ESG กองที่
2 ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในไตรมาส 1 ปีนี้ โดยวงเงินจะอยู่ที่ราว 180,000 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนเงินในกองทุนรวม
หุ้นระยะยาว (LTF) ที่ครบกำหนดอายุไปแล้ว คาดได้ข้อสรุปไม่เกินเดือน มี.ค.นี้ หรือไตรมาส 1/68
  • 3 องค์กรเศรษฐกิจด้านธุรกิจเกษตรและอาหาร 3 สถาบัน ได้แก่ สถาบันอาหาร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสภา
อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า การส่งออกสินค้าอาหารไทยในปี 67 มีมูลค่า 1,638,445 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 7.3% ถือเป็น
สถิติส่งออกสูงสุดครั้งใหม่ ส่วนปี 68 คาดว่าจะมีมูลค่า 1,750,000 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.8%
  • ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ม.ค.68 อยู่ที่ระดับ 91.6 เพิ่มขึ้นจากระดับ 90.1 ในเดือน ธ.ค.67 ซึ่งเป็น
ผลจากการส่งออกขยายตัวจากอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการเร่งนำเข้าเพื่อสต็อกสินค้า อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย
อาทิ มาตรการ Easy E-Receipt 2.0 รวมถึงโครงการโอนเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ให้แก่ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ช่วยเพิ่มกำลังซื้อ
ให้ประชาชน
  • ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repurchase
rate) ระยะเวลา 7 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไว้ที่ระดับ 5.75% ในการประชุมวันนี้ (19 ก.พ.) ตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
คาดการณ์ไว้ โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาเสถียรภาพเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมาย พร้อมทั้งสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ
  • โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นได้สอบถามสหรัฐฯ เกี่ยวกับแผนการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ โดยเน้นย้ำถึงผลกระทบที่อาจ
เกิดขึ้นต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญของประเทศ ด้านหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวย้ำว่า ญี่ปุ่นจะรับมือตาม
ความเหมาะสม หลังจากพิจารณารายละเอียดของมาตรการภาษีเมื่อมีการเปิดเผย และดูว่าจะส่งผลกระทบต่อญี่ปุ่นอย่างไรบ้าง
  • กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ต่างชาติถือครองพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐฯ ลดลงในเดือนธ.ค. 2567 เนื่องจาก
ญี่ปุ่นและจีนซึ่งเป็น 2 ประเทศที่ถือครองพันธบัตรสหรัฐฯ รายใหญ่ที่สุดนั้น ได้ปรับลดการถือพันธบัตรสหรัฐฯ ในพอร์ตการลงทุนของประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ