สหรัฐเผยดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนเม.ย. เพิ่ม 0.2%, ดัชนี PPI พื้นฐานพุ่ง 0.4%

           กระทรวงแรงงานสหรัฐเผย ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 0.2% ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ขยับขึ้น 0.4% ทั้งนี้ หากเทียบเป็นรายปี ดัชนี PPI พื้นฐานเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 3% ต่อปี ซึ่งเป็นอัตราการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี  1991 เป็นต้นมา
          การขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภคดังกล่าวน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 0.4% แต่ดัชนี PPI พื้นฐานมีการขยายตัวมากเกินคาด จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะขยายตัวเพียง 0.2%
          ดัชนีราคาผู้ผลิตซึ่งเป็นปัจจัยวัดอัตราเงินเฟ้อก่อนถึงมือผู้บริโภค มีการขยายตัวน้อยเกินคาดเนื่องจากราคาพลังงานลดลงและราคาอาหารเริ่มทรงตัว ซึ่งปัจจัยทั้งสองเป็นตัวหนุนให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นในเดือนที่ผ่านมา โดยราคาพลังงานลดลง 0.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. ในขณะที่ราคาอาหารยังทรงตัว
          ในภาคพลังงาน ราคาน้ำมันเบนซินลดลง 4.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค., ราคาน้ำมันทำความร้อนในบ้านเพิ่มขึ้น 5.4%, ราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) สูงขึ้น 3.5% และราคาพลังงานไฟฟ้าในครัวเรือนขยับขึ้น 1.2% ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2549
          แม้ราคาอาหารโดยรวมจะยังทรงตัว แต่ราคาข้าวขาว (ข้าวสี) ทะยานกว่า 17.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวสูงขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2536 อย่างไรก็ตาม ราคาไข่ไก่สดลดลง 12.3% ซึ่งลดลงมากที่สุดตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว ในขณะที่ราคาผัก เนื้อวัว และเนื้อลูกวัวก็ลดลงเช่นกัน  
          ปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อโดยรวมเพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียล รายงาน