เมเรดิท วิทนีย์ นักวิเคราะห์ด้านการธนาคารจาก ออพเพนไฮเมอร์ แอนด์ โค ได้ปรับลดแนวโน้มผลประกอบการของธนาคารพาณิชย์หลายแห่งในสหรัฐ รวมทั้งบริษัทอเมริกัน เอ็กซ์เพรส เพราะคาดว่าสถาบันการเงินเหล่านี้ยังคงได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์สินเชื่อ นอกจากนี้ วิทนีย์คาดว่า วิกฤตการณ์ดังกล่าวจะยังคงยืดเยื้อต่อไปจนถึงปี 2552
วิทนีย์กล่าวว่า "ปัญหาแรกที่พบคือข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกัน เนื่องจากวงเงินในการทำอันเดอร์ไรท์หุ้นกู้หลายล้านล้านดอลลาร์เกิดจากการตั้งสมมติฐานที่ผิดเพี้ยนไปจากความจริงที่ว่าราคาที่อยู่อาศัยจะสูงขึ้น ปัญหาที่สองคือการใช้เงินกู้ดำเนินธุรกิจแทนการใช้เงินทุน ซึ่งปัญหาเหล่านี้ทำให้การคำนวณมาร์จิ้นของสถาบันการเงินบิดเบือนไป"
ทั้งนี้ วิทนีย์ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการของเจพีมอร์แกนลงสู่ระดับ 1.95 ดอลลาร์/หุ้น จากเดิมที่ 2.85 ดอลลาร์/หุ้น พร้อมกับลดคาดการณ์ผลประกอบการของแบงค์ ออฟ อเมริกาลงสู่ระดับ 2.50 ดอลลาร์/หุ้น จากระดับ 3 ดอลลาร์/หุ้น ซิตี้กรุ๊ปลดลงสู่ระดับ 58 เซนต์ จากระดับ 45 เซนต์ และอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ลงสู่ระดับ 3.45 ดอลลาร์/หุ้น
นอกจากนี้ วิทนีย์คาดว่า สถาบันการเงินรายใหญ่อย่างเจพีมอร์แกน อาจตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นเป็น 2.32 หมื่นล้านดอลลาร์ ซิตี้กรุ๊ปอาจตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นเป็น 2.53 หมื่นล้านดอลลาร์ และแบงค์ ออฟ อเมริกา ตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นเป็น 2.04 หมื่นล้านดอลลาร์
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า การแสดงความคิดเห็นของวิทนีย์เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ฉุดหุ้นกลุ่มการเงินในตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนัก และถ่วงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อคืนนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--