กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.75-34.50 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 34.18 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 33.37-34.19 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 4 เดือน ก่อนจะพลิกกลับมาอ่อนค่า หลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bps เป็น 2.00%
ขณะที่เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในช่วงแรก ดอลลาร์ฯ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ เผชิญแรงกดดัน หลังสหรัฐฯ รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดิ่งลงแรงในเดือนกุมภาพันธ์ อย่างไรก็ตาม การแสดงความเห็นเรื่องภาษีศุลกากรอย่างกลับไปกลับมาของประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงดำเนินต่อไป และหนุนดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ขณะที่ตัวเลขเงินเฟ้อ PCE พื้นฐานเดือนมกราคมของสหรัฐฯ ออกมาสอดคล้องกับที่ตลาดคาดไว้ ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นและพันธบัตรสุทธิ 10,232 ล้านบาท และ 531 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนในเดือนกุมภาพันธ์เงินบาทอ่อนค่าลง 1.5%
สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับข้อมูลภาคบริการและการจ้างงานเดือนกุมภาพันธ์ของสหรัฐฯ เพื่อประเมินทิศทางนโยบายธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ต่อไป อีกทั้งบรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง จะถูกชี้นำโดยการคาดการณ์เกี่ยวกับระดับความรุนแรงของสงครามการค้า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน รวมถึงการเจรจายุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่จัดทำขึ้นโดยชาติยุโรป
นอกจากนี้ คาดว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25bps ในการประชุมวันที่ 6 มีนาคม โดยนักลงทุนจะติดตามสัญญาณด้านนโยบายของ ECB สำหรับระยะข้างหน้า อนึ่ง ในภาพรวมเรามองว่าหากแผนเพิ่มกำแพงภาษีของผู้นำสหรัฐฯ ดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น แรงส่งเชิงบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจจะยิ่งแผ่วลง ท่ามกลางความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่สูงขึ้น และกดอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงของสหรัฐฯ ให้ลดลงอีก ส่วนประเด็นด้านภูมิรัฐศาสตร์ และการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ จะยังคงมีอิทธิพลต่อค่าเงินบาทด้วยเช่นกัน
ส่วนปัจจัยในประเทศ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ลดดอกเบี้ยด้วยมติ 6 ต่อ 1 แต่ระบุว่าไม่ใช่วัฎจักรผ่อนคลายทางการเงิน โดย กนง.เห็นว่าดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.00% สอดคล้องกับการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจ และการรับมือกับความเสี่ยงในอนาคต ไร้สัญญาณเงินฝืด อีกทั้งการลดดอกเบี้ยไม่ควรถูกตีความว่าเป็นเครื่องมือหลักที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจ ท่ามกลางปัญหาเชิงโครงสร้าง จากท่าทีดังกล่าวเราคาดว่ากนง. อาจตรึงดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้