สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน เม.ย.51 อยู่ที่ 78.8 ปรับตัวลดลงจาก 83.2 ในเดือน มี.ค.51
ความเชื่อมั่นที่ลดลงดังกล่าวเป็นผลมาจากความกังวลของผู้ประกอบการเกี่ยวกับต้นทุนที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนด้านพลังงาน หลังมีการปรับราคาน้ำมันดีเซลในเดือน เม.ย.เพิ่มขึ้นถึง 10 ครั้ง(ปรับเพิ่มขึ้น 3 บาทต่อลิตร)
ประกอบกับได้รับผลกระทบจากยอดคำสั่งซื้อและยอดขายที่ปรับลดลง ทั้งยอดในประเทศและต่างประเทศจากปัจจัยด้านฤดูกาลที่มีจำนวนวันทำงานน้อยลง
นอกจากต้นทุนพลังงานแล้ว ต้นทุนวัตถุดิบเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการปรับลดลง ไม่ว่าจะเป็น ราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มสูงขึ้นส่งผลต่อผู้ประกอบการอาหาร รวมถึงราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น เหล็กที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นต้น
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ณ เดือน เม.ย.51 อยู่ที่ 91.7 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับการคาดการณ์ ณ เดือน มี.ค.51 ซึ่งอยู่ในระดับ 89.3 แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการยังคงมีความเชื่อมั่นในภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมที่ยังคงขยายตัวในเกณฑ์ดี
ทั้งนี้ ดัชนีคาดการณ์ไม่ว่าจะเป็นยอดคำสั่งซื้อและยอดขาย ทั้งในและต่างประเทศผู้ประกอบการยังคงมีความเชื่อมั่นว่าจะยังคงขยายตัวได้ในระดับที่น่าพอใจ โดยภายในประเทศจะได้รับผลดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ และรายได้ของผู้บริโภคที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่วนตลาดต่างประเทศจะได้รับผลดีจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าหลายๆ ประเทศที่ยังขยายตัว รวมทั้งปัญหา Sub prime ที่เริ่มมีทิศทางที่คลี่คลายมากขึ้น
ขณะที่ผู้ประกอบการมีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ โดยส่วนใหญ่มีความเห็นสอดคล้องกันว่า ภาครัฐควรเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาด้านพลังงานอย่างยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรม, ควรเร่งการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการ Mega project, ควรพิจารณาการตรึงราคาสินค้าพร้อมๆ กับการพิจารณาถึงต้นทุนของผู้ประกอบการด้วย, ควรส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และควรเร่งสร้างเสถียรภาพด้านการเมือง เพื่อเสริมสร้างบรรยากาศในการลงทุน
--อินโฟเควสท์ โดย อตฦ/รัชดา/ธนวัฏ โทร.0-2253-5050 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--