ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.64 แข็งค่าตามภูมิภาค ห่วงเศรษฐกิจสหรัฐชะลอจากมาตรการภาษีโต้กลับ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 5, 2025 17:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 33.64 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็ก น้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.68 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.60-33.77 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าตามทิศทางสกุลเงินในภูมิภาค เนื่องจากตลาด กังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจส่งสัญญาณชะลอตัวลง หลังจากหลายประเทศเริ่มมีมาตรการตอบโต้กำแพงภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลให้ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น

"แม้สหรัฐฯ จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่น แต่ก็ถูกตอบโต้กลับด้วยเช่นกัน ทำให้ตลาดเริ่มกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจจะชะลอตัวหรือไม่" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่าพรุ่งนี้ เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.55 - 33.80 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 149.38 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 149.83 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0708 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0622 เยน/ดอลลาร์
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,206.96 จุด เพิ่มขึ้น 29.32 จุด (+2.49%) มูลค่าการซื้อขาย 50,706.03 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,410.82 ลบ.(SET+MAI)
  • นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/68 จะขยายตัวได้ถึง 3.4% โดยถือเป็นการขยาย
ตัวในอัตราที่สูงสุดในรอบ 10 ไตรมาส ซึ่งในภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังสามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากปี 67 จากผลของมาตรการกระตุ้น
เศรษฐกิจต่าง ๆ ของรัฐบาล แต่ในทางกลับกัน ราคาหุ้นไทยไม่ได้สะท้อนภาพพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดีเท่าใดนัก
  • คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปี 68 เผชิญความเสี่ยงสูง ท่ามกลางความ
เสี่ยงจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ และแรงกดดันต่อภาคการผลิตที่จะยังมีต่อเนื่อง ส่วนอุปสงค์ภายในประเทศยังเปราะบาง โดยคงคาด
การณ์ปีนี้ GDP จะเติบโตได้ราว 2.4-2.9% มูลค่าการส่งออก ขยายตัว 1.5-2.5% และอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.8-1.2%
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ปราศัยต่อที่ประชุมร่วมวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ โดยยอมรับว่า
มาตรการภาษีศุลกากรที่ประกาศใช้นั้นจะก่อให้เกิด "ความยุ่งยากเล็กน้อย" แต่จะให้ผลตอบแทนคุ้มค่า ตามที่ได้เคยให้คำมั่นสัญญาไว้ว่า
นโยบายการค้าเชิงรุกของเขาจะเป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ ในที่สุด
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ได้รับจดหมายจากประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำ
ยูเครน ซึ่งแสดงความตั้งใจที่จะกลับสู่โต๊ะเจรจา เพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน
  • รัฐบาลจีน เปิดเผยมาตรการกระตุ้นด้านการคลังเพิ่มเติม โดยให้คำมั่นว่าจะเพิ่มความพยายามในการสนับสนุนการบริ
โภค และลดผลกระทบของสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ที่จะมีต่อเศรษฐกิจจีน พร้อมระบุว่า จีนวางแผนที่จะออกพันธบัตรพิเศษระยะยาว
มูลค่า 1.3 ล้านล้านหยวน (1.79 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากระดับ 1 ล้านล้านหยวนในปี 2567
  • กรมศุลกากรจีน เปิดเผยว่า จีนได้ระงับใบอนุญาตนำเข้าถั่วเหลืองของบริษัทสหรัฐฯ 3 แห่ง และหยุดการนำเข้าไม้ซุงจาก
สหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มระดับการตอบโต้ ต่อการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมของสหรัฐฯ ที่มีต่อสินค้าจีน
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ., ดัชนีผู้

จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนก.พ., ดัชนีภาคบริการเดือนก.พ., ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนม.ค., รายงานสรุป

ภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดนำเข้า ยอดส่ง

ออก และดุลการค้าเดือนม.ค. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.พ.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ