ค่าไฟยังไม่ลด! กกพ.เปิดเฮียริ่ง 3 ทางเลือกงวด พ.ค.-ส.ค.68 ช่วง 4.15-5.16 บาท/หน่วย

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 11, 2025 13:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าไฟยังไม่ลด! กกพ.เปิดเฮียริ่ง 3 ทางเลือกงวด พ.ค.-ส.ค.68 ช่วง 4.15-5.16 บาท/หน่วย

สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดรับฟังความคิดเห็นค่าเอฟทีงวด พ.ค.-ส.ค. 68 เสนอ 3 ทางเลือกค่าไฟที่ 4.15 - 5.16 บาทต่อหน่วย ระบุหลายปัจจัยยังคงกดตันค่าไฟ ปริมาณความต้องการไฟฟ้าเพิ่มต่อเนื่อง ปริมาณไฟฟ้าพลังน้ำนำเข้าลดลงตามฤดูกาล แนวโน้มต้นทุนไฟฟ้าจากถ่านหินเพิ่มสูงขึ้น

นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการ กกพ. เปิดเผยว่า ค่าเอฟทีในงวด พ.ค.-ส.ค.68 ยังคงมีภาระการชดเชยต้นทุนคงค้างที่เกิดขึ้นจริงของ กฟผ. นอกจากนี้อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐยังผันผวนจากนโยบายภาษีนำเข้าของสหรัฐ และการระบายน้ำของเขื่อนในประเทศได้ลดลงในฤดูแล้ง แม้จะมีแผนเพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินแล้ว แต่ความต้องการใช้ไฟฟ้ายังมีแนวโน้มที่สูงขึ้นตามสภาวะอากาศร้อน ทำให้ กกพ. ยังไม่สามารถประกาศปรับลดค่าเอฟทีลงได้

"ปัจจัยหลักๆ ยังคงเป็นภาระการชดเชยต้นทุนคงค้าง (AF) ที่เกิดขึ้นจริงของ กฟผ. และตันทุนการผลิตไฟฟ้าที่อ้างอิงอัตราแลกเปลี่ยน ประกอบกับช่วงฤดูแล้งและอากาศที่ร้อนทำให้สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าต้นทุนต่ำลดลงตามฤดูกาล ในขณะที่ความต้องการใช้ไฟฟ้ากลับเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยลบที่กดดันค่าเอฟที และไม่สามารถปรับลดค่าเอฟทีลงได้อีก" นายพูลพัฒน์ กล่าว

ในส่วนที่ กกพ. ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อร่วมหาแนวทางใหม่เพิ่มเติม ในการปรับลดค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนและภาคธุรกิจ กกพ.ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนเพิ่มเติม ที่จะสามารถนำมาเป็นปัจจัยในการพิจารณาค่าเอฟที ได้ทันตามวงรอบปกติของการพิจารณาค่าในงวด พ.ค.-ส.ค.68 ที่ถูกกำหนดให้ต้องทบทวนและค่าเอฟที และค่าไฟฟ้า ล่วงหน้าเป็นระยะเวลา 1 เดือนก่อนที่การประกาศจะมีผลบังคับใช้

สำหรับการเปิดรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร (Ft) งวด พ.ค.-ส.ค.68 ทั้ง 3 กรณีตามเงื่อนไข ดังนี้

กรณีที่ 1: ผลการคำนวณตามสูตรการปรับค่า Ft (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ. ทั้งหมด) และการคำนวณกรณีเรียกเก็บมูลค่าส่วนต่างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับภาคไฟฟ้าปี 66 ค่า Ft ขายปลีกเท่ากับ 137.39 สตางค์ต่อหน่วย สะท้อนแนวโน้ม (1) ต้นทุนเดือน พ.ค.-ส.ค.68 จำนวน 16.39 สตางค์ต่ต่อหน่วย และ (2) เงินเรียกเก็บชดเชยต้นทุนคงค้าง (AF) ที่เกิดขึ้นจริงของ กฟผ. จำนวน 71,740 ล้านบาท (หรือคิดเป็น 99.98 สตางค์ต่อหน่วย) และมูลค่าส่วนต่างราคาก๊าชฯ ที่เกิดขึ้นจริงกับราคาก๊าซฯ ที่เรียกเก็บเดือน ก.ย.-ธ.ค.66 ของ Shipper จำนวน 15,084 ล้านบาท (หรือคิดเป็น 21.02 สตางค์ต่อหน่วย) รวมจำนวน 121.00 สตางค์ต่อหน่วย โดยเมื่อรวมค่า Ft ที่คำนวณได้กับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5.16 บาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้น 24% จาก 4.15 บาทต่อหน่วย ในงวดปัจจุบัน

กรณีที่ 2: ผลการคำนวณตามสูตรการปรับค่า Ft (จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ. ทั้งหมด) ค่า Ft ขายปลีกเท่ากับ 116.37 สตางค์ต่อหน่วย สะท้อนแนวโน้มต้นทุน 16.39 สตางค์ต่อหน่วย และเงินเรียกเก็บเพื่อชดเชย กฟผ. จำนวน 71,740 ล้านบาท (หรือคิดเป็น 99.98 สตางค์ต่อหน่วย) เมื่อรวมค่า Ft ที่คำนวณได้กับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 4.95 บาท ต่อหน่วย เพิ่มขึ้น 19% จาก 4.15 บาทต่อหน่วย ในงวดปัจจุบัน

กรณีที่ 3: ตรึงค่า Ft เท่ากับงวดปัจจุบัน (ข้อเสนอ กฟผ.) ค่า Ft ขายปลีกเท่ากับ 36.72 สตางค์ต่อหน่วย สะท้อนแนวโน้มต้นทุน 16.39 สตางค์ต่อหน่วย และทยอยชำระคืนภาระต้นทุน AF คงค้างสะสม 14,590 ล้านบาท (หรือคิดเป็น 20.33 สตางค์ต่อหน่วย) และมูลค่าส่วนต่างของราคาก๊าซฯที่เกิดขึ้นจริงกับค่าก๊าซฯเรียกเก็บของ Shipper ในระบบของ กฟผ. ต่อไป เมื่อรวมค่า Ft ขายปลีกกับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) คงที่เท่ากับ 4.15 บาทต่อหน่วย เช่นเดียวกับปัจจุบัน ทั้งนี้ กกพ. เปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 11-24 มี.ค.68 ก่อนที่จะมีการสรุปและประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ