นายโดนัลด์ คอห์น รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้และจากนั้นจะฟื้นตัวเร็วขึ้นในปีพ.ศ.2552 เนื่องจากตัวเลขเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง
"ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเริ่มดีขึ้นในปีหน้าเนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ค่อยๆกระเตื้องขึ้น อย่างไรก็ตาม ผมมองว่ามีปัจจัยลบหลายอย่างที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐยังเผชิญกับความไม่แน่นอน" นายคอห์นกล่าวในการประชุมผู้จัดการกองทุนที่นิวออร์ลีนส์
รองประธานเฟดระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) พื้นฐานเคลื่อนไหวอยู่ในระดับปานกลางในปีนี้ แต่ราคาอาหารและพลังงานยังไม่ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ดี เขาคาดว่า ดัชนีซีพีไอพื้นฐานจะชะลอตัวลงเนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มลดลง และเนื่องจากมีการแข่งขันเกิดขึ้นในภาคธุรกิจซึ่งจะช่วยสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของดัชนีซีพีไอและต้นทุนด้านแรงงาน
นายคอห์นสงวนท่าทีที่จะแสดงความคิดเห็นต่อกระแสวิพาษ์วิจารณ์ที่ว่า การเก็งกำไรเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งขึ้น โดยเขากล่าวเพียงว่า "ความจริงแล้วราคาสินค้าโภภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นในขณะที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลง แต่สต็อคสินค้าโภภัณฑ์ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ไม่อาจฟันธงลงไปว่า การเก็งกำไรเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งสูงขึ้น"
"สำหรับผมแล้ว การที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลดลงและสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง น่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะราคาน้ำมัน ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่า เพราะดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงจะดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้าเทรดได้มากขึ้น" นายคอห์นกล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--