ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.80 แข็งค่าตามภูมิภาค รอข้อมูลจ้างงานฝั่งสหรัฐ

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 33.80 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 33.95/96 บาท/ดอลลาร์

โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.78-33.97 บาท/ดอลลาร์ สำหรับช่วงเย็นนี้ เงินบาทและสกุลเงินส่วนใหญ่ ในภูมิภาคเคลื่อนไหวในทิศทางแข็งค่า ปัจจัยจากราคาทองคำในตลาดโลกที่พุ่งขึ้นระหว่างวัน

"ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตลาดปิดรับความเสี่ยง เข้าซื้อดอลลาร์ ทำให้เงินบาทอ่อนค่า แต่ระหว่างวันราคาทองเด้ง เงินบาทใน ช่วงปิดตลาดจึงแข็งค่า" นักบริหารเงิน ระบุ

สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยคืนนี้ คือ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนม.ค. นอกจากนี้ ในช่วงนี้ยังต้องรอดูความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ว่าจะออกมาพูดถึง มาตรการอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ ขณะเดียวกัน ต้องติดตามราคาทองคำในตลาดโลกด้วย

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.70 - 34.00 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

เงินเยน อยู่ที่ระดับ 147.33 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 146.79/83 เยน/ดอลลาร์
เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0914 ดอลลาร์/ยูโร (แข็งค่าสุดในรอบ 5 เดือน) จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0854/0855

ดอลลาร์/ยูโร

ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,187.63 จุด เพิ่มขึ้น 10.19 จุด (+0.87%) มูลค่าการซื้อขาย 49,522.05 ล้านบาท
สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 994.42 ลบ.(SET+MAI)
คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการจัดตั้งกองทุน ThaiESG Extra หรือ Thai ESGX ที่จะเปิดให้ซื้อหน่วยลงทุนได้

ในเดือน พ.ค.-มิ.ย.68 จะเปิดรับเม็ดจาก 2 ส่วน คือ เม็ดเงินจากกองทุนระยะยาวเพื่อการลดหย่อนภาษี (LTF) ที่ครบกำหนดไถ่ถอน

ให้มีทางเลือกโอนเข้ามาลงทุนต่อได้ ซึ่งจะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีจากการลงทุน 5 แสนบาท โดยปีแรกได้ 3 แสนบาท ส่วนอีก 2 แสน

บาท ทยอยใช้สิทธิได้ปีละไม่เกิน 5 หมื่นบาท 4 ปี ส่วนที่ 2 จะเปิดให้เติมเม็ดเงินใหม่เข้ามาด้วย โดยจะได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีไม่เกิน

3 แสนบาท

รมว.คลัง ระบุว่า รัฐบาลมีมาตรการที่จะเรียกความเชื่อมั่นนักลงทุน โดยอยู่ระหว่างเตรียมออก พ.ร.ก.ให้อำนาจ ก.ล.

ต. เร่งจัดการกับผู้ที่ไม่ทำตามกฎกติกา จนทำให้นักลงทุนรายย่อยได้รับความเสียหาย เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างเร่งด่วน ยับยั้ง

ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว คาดว่าจะเสนอเข้า ครม.พิจารณาอนุมัติได้ไม่เกิน 2 สัปดาห์

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ประสานเสียงคาดหวัง

เม็ดเงิน Thai ESGX หนุนตลาดหุ้นไทยฟื้น หลังจากมูลค่าหดหายไปแล้วตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันนี้ราว 2 แสนล้านบาท โดยคาดว่าเม็ดเงินจาก

กองทุน LTF ที่ครบกำหนดไถ่ถอนจะโยกเข้ามาลงทุนต่อราว 1.35 แสนล้านบาท หรือ 75% ของวงเงินทั้งหมดที่คงค้างอยู่ 1.8 แสนล้าน

บาท ขณะที่เม็ดเงินลงทุนใหม่คาดว่าจะเข้ามาอีกราว 3 หมื่นล้านบาท

ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน ผลสำรวจในเดือนก.พ. 68 พบว่า ดัชนีความ

เชื่อมั่นนักลงทุน (ICI) ในอีก 3 เดือนข้างหน้า ปรับลงมาอยู่ในเกณฑ์ "ซบเซา" ที่ระดับ 66.11 โดยนักลงทุน มองว่า มาตรการกระตุ้น

เศรษฐกิจของภาครัฐเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมา คือการไหลเข้าของเงินทุน และการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

ของกนง. ปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ สถานการณ์เงินเฟ้อ และการถดถอย

ของเศรษฐกิจในประเทศ

GCAP GOLD ประเมินทิศทางราคาทองคำผันผวน โดยเด้งจาก 2,859 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นมาแตะระดับสูงสุดที่ 2,930

ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากความกังวลการบังคับใช้มาตรการภาษีของสหรัฐฯ ต่อแคนาดา เม็กซิโก และจีน ประกอบกับ ตัวเลขการจ้างงาน

นอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯ ที่ออกมาต่ำกว่าคาด และอัตราการว่างงานขยับจาก 4.0% ขึ้นมาเป็น 4.1%

รมว.การค้าของญี่ปุ่น เรียกร้องสหรัฐฯ ไม่ให้เก็บภาษีการค้ากับญี่ปุ่น แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันใด ๆ ว่า ญี่ปุ่นจะได้รับการ

ยกเว้น ซึ่งรวมถึงภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม 25% ที่มีกำหนดเริ่มใช้ในวันพุธนี้ (12 มี.ค.)

ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานคืนนี้ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนก.พ. และ ตัว

เลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนม.ค.

แท็ก ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เงินบาท ข้อมูล สหรัฐ

โดย ปภัสสร องค์พิเชฐเมธา/กษมาพร กิตติสัมพันธ์

ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.80 แข็งค่าตามภูมิภาค รอข้อมูลจ้างงานฝั่งสหรัฐ คาดกรอบพรุ่งนี้ 33.70-34.00