ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 33.77 แนวโน้มแกว่ง sideway ทางแข็งค่า จับตาราคาทอง-ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 13, 2025 09:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 33.77 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดวันก่อนที่ระดับ 33.87 บาท/ดอลลาร์

โดยช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น ในลักษณะ Sideway Down หนุนโดยการรีบาวด์ขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ ตามจังหวะการย่อตัวลงของเงินดอลลาร์ หลังรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนก.พ.ของสหรัฐฯ ชะลอลง ทำให้ตลาดคลายกังวลแนวโน้ม การเกิดภาวะ Stagflation (เศรษฐกิจชะลอ แต่อัตราเงินเฟ้อสูง)

"ตลาดการเงินสหรัฐฯ ที่เริ่มกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น ได้จำกัดการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำ ขณะเดียวกัน การรี บาวด์ขึ้นบ้างของเงินดอลลาร์ ก็มีส่วนช่วยจำกัดการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงคืนที่ผ่านมา" นายพูน ระบุ

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท ยังคงแกว่งตัวในกรอบ Sideway ในช่วงที่ตลาดรอรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ คืน นี้ ทั้งดัชนีราคาผู้ผลิต PPI และยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน โดยเงินบาทอาจพอได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าอยู่บ้าง หลังบรรยากาศในตลาด การเงินกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น

อย่างไรก็ดี หากราคาทองคำย่อตัวลง หลังตลาดขาดปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุนราคาทองคำ ก็อาจเป็นปัจจัยที่จำกัดการแข็งค่า ขึ้นของเงินบาทได้

นายพูน คาดกรอบเงินบาทวันนี้ จะอยู่ที่ระดับ 33.70-33.90 บาท/ดอลลาร์

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 33.78000 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 148.29 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 148.60 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0887 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0917/0919 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 33.792 บาท/ดอลลาร์
  • คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ยกคณะเข้าพบนายกฯ ถกแผนรับมือนโยบายขึ้นภาษีสหรัฐ ชงรัฐดึง บสย.ค้ำสิน
เชื่อรถกระบะ
  • "ทีทีบี" ชี้ไทยเผชิญหลายปัญหา จากนโยบายทรัมป์ สินค้าจีนทะลัก ลามกระทบความสามารถแข่งขันของธุรกิจใหญ่ ชี้เริ่ม
เห็นรายใหญ่อ่อนแอลง ขณะที่เอสเอ็มอีหนี้เสียพุ่ง "ทีดีอาร์ไอ" จับตา 2 เม.ย.สหรัฐประกาศขึ้นภาษีไทย คาดเศรษฐกิจปีนี้โตไม่เกิน
3% "เอเชียพลัส" หวั่นครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยน่าห่วงขึ้น
  • นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า ประเมินแนวโน้มภาคท่องเที่ยวไทยในปัจจุบัน คาดการณ์ว่า
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี 2568 เต็มที่น่าจะทำได้ประมาณ 37 ล้านคน เทียบเท่าปี 2567 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทย
ประมาณ 35.54 ล้านคน ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่ยังมีปัจจัยลบอยู่มาก ทำให้จำนวนเป้าหมายของรัฐบาลที่ 39 ล้านคน ยากเกินไป
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 2.8%
ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนม.ค.ที่เพิ่มขึ้น 3.0% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.9%
  • นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนมิ.ย.,
ก.ย.และธ.ค. หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาดการณ์
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (12 มี.ค.)
เนื่องจากนักลงทุนมองว่ามาตรการภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะก่อให้เกิดเงินเฟ้อ แม้ว่าสหรัฐฯ เปิดเผย
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ.ชะลอตัวลงก็ตาม
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันพุธ (12 มี.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค
(CPI) ชะลอตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตรา
ดอกเบี้ย นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ.ของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจน
เกี่ยวกับแนวโน้มเงินเฟ้อของสหรัฐฯ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ