
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เดือนก.พ.68 อยู่ที่ระดับ 57.8 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน นับตั้งแต่ ต.ค.67 เนื่องจากผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าจากนโยบาย Trump 2.0 ส่งผลให้ตลาดหลักทรัพย์ของไทยและทั่วโลกปรับตัวลดลง แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ผู้บริโภคกลับรู้สึกว่าเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวได้ช้า
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวม อยู่ที่ 51.5 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางาน อยู่ที่ 55.2 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 66.7 โดยดัชนีความเชื่อมั่นฯ ปรับตัวลดลงทุกรายการเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนเช่นกัน

"ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในเดือนนี้ สร้างความแปลกใจ และเป็นสิ่งที่ต้องติดตาม เพราะดัชนีฯ พลิกกลับมาลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือนทุกรายการ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนภัยที่เรากังวล" นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ระบุ
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวม ยังเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้า และค่าครองชีพสูง ตลอดจนปัญหาสงครามการค้าที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ยังคงมีโอกาสบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทั้งในปัจจุบัน และในอนาคตได้อย่างต่อเนื่องในระยะอันใกล้นี้

โดยผู้บริโภคมีความกังวลต่อความเชื่อมั่นในอนาคต หากสถานการณ์สงครามการค้าในอนาคต จะทวีความรุนแรงและขยายวงมากขึ้น ไม่ใช่แค่เพียงการตอบโต้ระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งจะส่งผลกระทบมาถึงเศรษฐกิจไทยที่อาจกลับมาฟื้นตัวได้ไม่รวดเร็ว แม้รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ออกมาก็ตาม
1. ประชาชนไม่รู้สึกว่าเศรษฐกิจฟื้น หรือมองว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาดไว้ แม้จะมีมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐออกมาตั้งแต่ปลายปี 67 ต่อเนื่องจนถึงไตรมาสแรกของปี 68 ไม่ว่าจะเป็นโครงการโอนเงิน 10,000 บาท ทั้ง 2 เฟส, คุณสู้ เราช่วย, Easy E-Receipt เป็นต้น
2. ปัญหาสงครามการค้า (Trade War 2.0) ที่หลายประเทศเริ่มมีมาตรการตอบโต้กลับ หลังถูกสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า ซึ่งสถานการณ์นี้ ส่งผลกระทบต่อ Sentiment ของตลาดหุ้นทั่วโลก และส่งสัญญาณไปถึงความเชื่อมั่นในอนาคตของประชาชน
3. สถานการณ์การเมืองในประเทศที่ไม่นิ่ง ซึ่งไปส่งผลให้เห็นในดัชนีการเมือง ที่ประชาชนมีความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในประเทศในอนาคต
"ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคตกลงมาในเดือนก.พ. และอาจจะค่อย ๆ ปรับลดลง ภายใต้ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจทั้งโลก...ต้องจับตาสถานการณ์ในเดือนมี.ค. ว่าจะเป็นอย่างไรต่อ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2 รอลุ้นรอบเดือนเม.ย. ว่าทรัมป์ จะมีมาตรการออกมาเพิ่มเติมหรือไม่ อย่างไร เพราะไทยเอง ก็อาจจะตกอยู่ในเป้าหมายถูกขึ้นภาษีสินค้า เพราะเราเกินดุลการค้ากับสหรัฐมาก รวมถึงประเด็นที่สหรัฐฯ พูดถึงกรณีอุยกูร์ด้วย ต้องจับตาดูในไตรมาส 2" นายธนวรรธน์ ระบุ