ธปท.เผยดอกเบี้ยอาจเป็นขาขึ้นก่อนปลายปี เหตุเงินเฟ้อพื้นฐานมีสิทธิหลุดกรอบ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 21, 2008 15:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          นางสาวดวงมณี วงศ์ประทีป ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในประเทศมีโอกาสกลับมาสู่ขาขึ้นก่อนปลายปีนี้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อฟื้นฐานในช่วงปลายปีนี้อาจหลุดจากกรอบ 0-3.5% ที่ธปท.กำหนดนโยบายไว้ จากผลกระทบราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงกว่าความคาดหมาย ขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากที่แท้จริงขณะนี้ติดลบไปถึง 4.54% ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่ก.ค.48
"ภายใต้สมมติฐานเงินเฟ้อ รวมการปรับขึ้นค่าโดยสารสาธารณะในวันที่ 25 พ.ค. เงินเฟ้อพื้นฐานอาจแตะกรอบที่วางไว้ 0.-3.5% กรณีเลวร้ายสุดอาจจะหลุดกรอบในปลายปีนี้ ช่วง 8 ไตรมาสข้างหน้าบางไตรมาสก็อาจจะหลุดกรอบ ความเป็นไปได้ที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นก่อนเงินเฟ้อหลุดกรอบก็มี แต่ก็ต้องดูอัตราเติบโตของเศรษฐกิจที่แท้จริงในระยะยาวด้วย"นางสาวดวงมณี กล่าวในการแถลงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)วันนี้
ทั้งนี้ ธปท.ได้ปรับสมมติฐานราคาน้ำมันกรณีฐานขึ้นมาเป็น 110 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จากเดิมอยู่ที่ 93 เหรียญ/บาร์เรล และกรณีเลวร้ายสุดมองว่าราคาน้ำมันอาจขึ้นไปถึง 140 เหรียญ/บาร์เรล
นางสาวดวงมณี กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อในระยะต่อไปจะเร่งตัวขึ้นอย่างชัดเจน จากราคาน้ำมัน อาหาร และ สินค้าโภคภัณฑ์ เกิดจากปัจจัยนอกประเทศเป็นหลัก ทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำไม่ได้ เพราะยังมีความเปราะบางด้านเศรษฐกิจอยู่ แม้ว่าอุปสงค์ในประเทศจะเฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาสแรก แต่ยังมีความแผ่วและความเปราะบางอยู่ ซึ่งอาจจะส่งผลลดความเชื่อมั่นเอกชนทางด้านต้นทุนที่เร่งตัวขึ้นและเงินฟ้อ
สำหรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่ภาครัฐประกาศใช้ และการเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ นับว่าเพียงพอช่วยเศรษฐกิจได้ตามแนวทางที่ตั้งใจเอาไว้ แต่ยังต้องใช้เวลากว่าที่จะส่งผลลงมาถึงภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง ขณะที่อัตราดอกเบี้ยฝากที่แท้จริงลบ 4.54% ต่ำสุดนับตั้งแต่ ก.ค.48 และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่แท้จริงบวก 0.68% เป็นเหตุสำคัญที่จะต้องดูแลอัตราเงินเฟ้อไม่ให้สูงจนกัดกร่อนเศรษฐกิจจนเกินไป ซึ่งจะมีผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
"เราก็อยากเห็นเศรษฐกิจเจริญเติบโตดีอย่างยั่งยืนเพราะเราต้องทำมาหากิน แต่ กนง.ก็ต้องดูผลกระทบรอบด้าน ถ้าเลือกด้านใดด้านหนึ่งในการปรับขึ้นลงอัตราดอกเบี้ยก็ต้องดูว่ามีผลกระทบด้านใด มีความเสี่ยงด้านใดบ้าง...ดอกเบี้ยมีผลสองด้านต้องบาลานซ์และชั่งน้ำหนัก แต่ตอนนี้เงินเฟ้อสูง กนง.จึงมีมติคงดอกเบี้ยไว้ก่อน เพราะน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นกว่าความเป็นจริง"นางสาวดวงมณี กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าล่าสุดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยในเดือนเม.ย.51 จะสูงถึง 6.2% แต่ก็ยังมีประเทศเพื่อนบ้านที่มีอัตราเงินเฟ้อสูงกว่า เช่น ฟิลิปปินส์ 8.3% อินโดนีเซีย 9% จีน 8.5% สิงคโปร์ 6.7% และ อินเดีย 7.4% ส่วนประเทศที่เงินเฟ้อต่ำกว่า เช่น ไต้หวัน 4% มาเลเซีย 2.8%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ