นางแพตริเซีย มงคลวณิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการแก้ไขร่างกฎกระทรวงสำหรับผู้มีสิทธิขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบการรับเหมาของภาครัฐว่า ขณะนี้ กรมฯ เตรียมเสนอร่างแก้ไขดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้ว โดยจะปรับปรุงให้สามารถปรับ "ลดชั้น" ผู้รับเหมางานภาครัฐ จากกฏหมายฉบับปัจจุบันจะมีปรับ "ขึ้นชั้น" เพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรองรับเงื่อนไขที่ผู้รับเหมางานก่อสร้างขนาดใหญ่จะต้องอยู่ในชั้นที่กำหนด หรือมีการสั่งสมประสบการณ์งานภาครัฐหลายโครงการมาก่อนจึงจะมีสิทธิได้รับงาน
"การแก้ไข จะเป็นเรื่องการให้คะแนนผู้รับเหมา กรณีที่มีการตัดแต้ม ก็ดูว่ามีคะแนนระดับไหน ต้องโดนระงับอะไรบ้าง เช่น ห้ามรับงาน 3 เดือน หรือห้ามรับงาน 1 ปี แรงสุดเทียบเท่าทิ้งงาน คือ ห้ามรับงาน 2 ปี ส่วนค่าปรับนั้น ต้องดูไปตามแต่ละสัญญา" อธิบดีกรมบัญชีกลาง
พร้อมระบุว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ได้เข้าร่วมประชุมกับนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในเรื่องความปลอดภัยด้านการก่อสร้างถนนและเส้นทางคมนาคม ซึ่งได้นำเรียนนายกรัฐมนตรีว่า หน่วยงานที่เป็นต้นสังกัดจะต้องไปพิจารณาดูว่ามีเครื่องมือหรือกฎระเบียบใดที่ใช้กำกับดูแลผู้รับเหมาได้บ้าง ซึ่งในแง่ของกฎหมายการจัดซื้อจัดจ้างก็มีบทลงโทษ และรวมถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เชื่อว่าน่าจะหยิบมาพิจารณาได้
"กรณีความผิดซ้ำซากของผู้รับเหมานั้น ต้องย้อนกลับไปว่า กฎหมายกลางที่มีอยู่นั้น ท่าน (หน่วยงานต้นสังกัด) พร้อม Apply ใช้ได้ไหม เชื่อว่ามีที่ทำได้ แต่หน่วยงานต้องไปพิจารณาว่าเข้าตรงไหน เพราะใน พ.ร.บ.จัดซื้อฯ เอง ก็มีโทษแรงสุดที่เกิดจากการทิ้งงาน คือ กรรมการที่มีอำนาจลงนาม ห้ามรับงาน 2 ปี" อธิบดีกรมบัญชีกลาง ระบุ
ก่อนหน้านี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม กล่าวถึงความคืบหน้าล่าสุดสำหรับมาตรการ "สมุกพกผู้รับเหมา" ภายหลังจากเกิดเหตุคานเหล็กก่อสร้างทางด่วนบริเวณ ถ.พระราม 2 ทรุดตัวเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า ขณะนี้ได้หารือกับกรมบัญชีกลาง คาดว่ามาตรการจะออกได้ชัดเจนภายใน เม.ย.68 ดังนั้นหากพบผู้รับเหมาที่กระทำความผิด จะสั่งให้หยุดรับงานทันที และไม่สามารถประมูลงานได้ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ และหลังจากนั้น จะพิจารณาออกมาตรการจัดการผู้ควบคุมงาน เพื่อให้มีบทลงโทษเช่นเดียวกับมาตรการสมุดพกผู้รับเหมา