ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 33.62/63 ตลาดรอลุ้นผลประชุมเฟด คาดกรอบพรุ่งนี้ 33.60-33.80

ข่าวเศรษฐกิจ Monday March 17, 2025 17:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 33.62/63 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากเปิด ตลาดเมื่อเช้านี้ที่ระดับ 33.63 บาท/ดอลลาร์

โดยระหว่างวัน เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 33.58 - 33.70 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคยังทรงตัว เคลื่อนไหวตามแรงซื้อแรงขายระหว่างวัน และราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น-ลง ทั้งนี้ ตลาดรอดูผลการประชุมธนาคารกลาง สหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 18-19 มี.ค.นี้เป็นหลัก ซึ่งนักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะยังไม่ลดดอกเบี้ยในครั้งนี้ เนื่องจากดอลลาร์ยังไม่ฟื้น และมีความกังวลเรื่องนโยบายภาษี

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.60 - 33.80 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 148.68/69 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 148.66 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0895/0897 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0879 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,170.20 จุด ลดลง 3.56 จุด (-0.30%) มูลค่าการซื้อขาย 35,904.16 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,313.01 ลบ.(SET+MAI)
  • กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวใน
กรอบ 33.40-34.00 บาท/ดอลลาร์ ภาพรวมในสัปดาห์นี้ จะอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 18-19 มี.ค. ซึ่งคาด
ว่าจะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25-4.50% แม้เงินเฟ้อเดือนก.พ. ของสหรัฐฯ ต่ำกว่าคาด ส่วนปัจจัยในประเทศ ผู้ว่าการธปท. กล่าวว่า
ระดับดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.00% เหมาะสมสำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน และไม่ต้องการที่จะปรับดอกเบี้ยบ่อยครั้ง โดยยังคงพิจารณาการเติบ
โตของเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และเสถียรภาพทางการเงิน
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เขาไม่มีความประสงค์ที่จะยกเว้นภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียม
พร้อมระบุว่ามาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) และมาตรการภาษีเฉพาะภาคส่วน จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.
ย.นี้
  • รมว.คลัง ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะไม่เผชิญกับภาวะถดถอย อย่างไรก็ดี เขา
ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่า สหรัฐฯ จะเผชิญกับวิกฤตการณ์ทางการเงิน
  • ยูบีเอส กรุ๊ป (UBS Group) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำ เนื่องจากโอกาสที่สงครามการค้าโลกจะยืดเยื้อมีเพิ่มมาก
ขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า จะเป็นปัจจัยหนุนให้นักลงทุนหันมาถือครองทองคำมากขึ้น ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
  • นักลงทุนทั่วโลกที่ต้องการหลีกเลี่ยงผลกระทบจากความผันผวนทางการเมือง และเศรษฐกิจ ซึ่งเกิดจากนโยบายของรัฐบาล
โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ต่างพากันเข้าซื้อกองทุน ETF ทองคำ ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20 มี.ค. และจะยังคงยึดมั่นในแนวทาง
การปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป ในขณะที่ BoE เตรียมรับมือกับผลกระทบจากมาตรการภาษีการค้าของประธานาธิบดี
สหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และข้อมูลเศรษฐกิจของอังกฤษที่ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะมีการรายงานในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนก.พ., ดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.

ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมี.ค., ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.พ., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.

พ., ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมนโยบายการเงิน และแถลงมติอัตราดอกเบี้ย, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอด

ขายบ้านมือสองเดือนก.พ. และ ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนก.พ.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ