นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวภายหลังการหารือกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า วันนี้เป็นการหารือกันทั่วไป เพราะไม่ได้มีการพูดคุยกันนาน สำหรับเรื่องการแก้หนี้ประชาชนตามแนวทางของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น เรื่องนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป ต้องขอหารือกับสมาคมธนาคารไทยในช่วงเย็นของวันนี้ก่อน
"ต้องขอคุยก่อน เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับหลายล้านบัญชี ซึ่งก็มีวิธีดู และในส่วนของลูกหนี้ เราต้องแยกเป็นประเภทต่าง ๆ ว่าเป็นลูกหนี้ลักษณะใด" นายพิชัย กล่าว
ในเรื่องการซื้อหนี้คืนจากประชาชน จะใช้วิธีการแฮร์คัทหรือไม่นั้น รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องวิธีการนั้นต้องดูก่อน เพราะมีคนหลายฝ่าย เราจะไปตัดสินใจแบบนั้นไม่ได้ว่าจะแฮร์คัทหรือไม่แฮร์คัท
ทั้งนี้ จากแนวคิดของนายทักษิณทำให้ประชาชนเข้าใจว่ารัฐบาลจะรับภาระหนี้ให้แทน นายพิชัย ยืนยันว่าไม่ใช่แบบนั้น รัฐบาลไม่ได้รับภาระหนี้ และไม่ใช่การใช้งบประมาณ
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนตามแนวคิดของนายทักษิณ สอดคล้องกับแนวทางของกระทรวงการคลัง แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุป ซึ่งเรื่องนี้จะช่วยให้คนที่เป็นหนี้เสียมีโอกาสกลับเข้ามา เป็นกลไกให้เศรษฐกิจหมุนเวียนได้
ส่วนผู้ที่เป็นลูกหนี้ที่ดีก็อย่าไปคิดว่ารัฐบาลไม่ดูแล เพราะลูกหนี้กลุ่มนี้มีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อได้มากกว่า และได้ดอกเบี้ยที่ถูกกว่าอยู่แล้ว ตามการจัดชั้นหนี้
นายจุลพันธ์ ยังกล่าวว่า ขณะนี้ทิศทางเรื่องของหนี้เสียดีขึ้นมาก ตัวเลขตอนที่รัฐบาลเข้ามาใหม่ ๆ อยู่ในเทรนด์ขาขึ้น แต่ตอนนี้ถือว่าอยู่ในช่วงที่ตัวเลขทรงตัว เพียงแต่ยังไม่มีช่องทางดึงคนที่เป็น NPL ออกมาจากการเป็น NPL จึงต้องมีมาตรการมานำคนที่เป็น NPL ออกจากส่วนที่ค้างอยู่
แนวคิดดังกล่าวไม่ใช่การแฮร์คัทหนี้ เพราะจะรไปซื้อหนี้ออกมาจากสถาบันการเงิน การจะใช้เงินของรัฐและเอกชนนั้นทำได้ 2 แบบ ก็เหมือนก่อนหน้านี้ที่ธนาคารออมสินเคยทำ JV AMC ขึ้นมา แต่ส่วนนี้ที่รัฐบาลจะทำใหม่ก็คือการทำให้มีโครงสร้างที่ลงไปแก้ปัญหาถึงระดับประชาชนรากหญ้าได้
ด้านนายยรรยง ไทยเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานวิจัยเศรษฐกิจและความยั่งยืน ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) กล่าวถึงแนวคิดการรับซื้อหนี้เสียของประชาชนจากธนาคารพาณิชย์มาบริหารจัดการว่า ยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ เนื่องจากยังไม่เห็นภาพรวมของนโยบาย แต่เข้าใจว่าทุกภาคส่วนพยายามหาทางแก้ปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือน เพราะเป็นปัญหาใหญ่ อย่างไรก็ดี มองว่าหลักในการแก้ปัญหาหนี้ได้ยั่งยืน คือจะต้องเพิ่มรายได้ให้ประชาชน
"ธนาคารพยายามร่วมมือกับภาครัฐ ช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" ภาคการเงินพยายามปรับโครงสร้างหนี้ให้สอดคล้องกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า ทั้งนี้ กรอบสำคัญคือต้องมองให้ครบ บูรณาการผลกระทบต่าง ๆ สำคัญคือที่มาของเงินมาจากไหน เพราะอาจจะเป็นภาระทางการคลังได้ และคำนึงผลกระทบเชิง Moral Hazard ต้องหาจุดตรงกลางในการช่วยเหลือ" นายยรรยง กล่าว