น.ส.พจนีย์ พินิจศักดิ์กุล ประธานกรรมการบริหาร คอปเปอร์ บียอนด์ บุฟเฟต์ (Copper Beyond Buffet) ร้านอาหารบุฟเฟต์นานาชาติ เชื่อมั่นว่า ด้วยแผนธุรกิจที่เดินเกมรุกต่อเนื่อง และการต่อยอดจุดแข็งเดิมของแบรนด์ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพมาเป็นอันดับหนึ่ง เน้นสร้างประสบการณ์การรับประทานอาหารใหม่ ๆ ให้ลูกค้า ยกระดับเมนูอาหารให้หลากหลาย และมีความพิเศษยิ่งขึ้นอย่างสม่ำเสมอ บวกกับการพัฒนาบุคลากร และระบบหลังบ้านในการนำดาต้ามาต่อยอดเพื่อเข้าถึงอินไซต์ และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น จะทำให้ในปี 68 Copper Beyond Buffet สามารถดันรายได้รวมแตะ 1,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารองรับลูกค้า 5 แสนคน จาก 4.8 แสนคนในปี 67 พร้อมเดินหน้าสู่การเป็น Best International Buffet in Southeast Asia
ขณะที่ในปี 2567 ที่ผ่านมา Copper Beyond Buffet ทั้ง 2 สาขา (The Sense ปิ่นเกล้า และศูนย์การค้า Gaysorn Amarin) มีรายได้รวมราว 800 ล้านบาท อัตราการจอง (Occupancy Rate) อยู่ที่ 70% และมีสัดส่วนลูกค้าไทยอยู่ที่ 65% ลูกค้าชาวต่างชาติ 35% และคาดว่าปีนี้ลูกค้าต่างชาติจะเพิ่มขึ้นทั้งจากจีน ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ และไต้หวัน ซึ่งทั้ง 5 ประเทศเป็นลูกค้าที่กำลังเติบโตของคอปเปอร์เช่นกัน
น.ส.พจนีย์ ระบุว่า ปัจจุบัน เราเป็นธุรกิจขนาดกลางที่เติบโตแบบธุรกิจแบบธุรกิจครอบครัว ค่อย ๆ ขยายฐานลูกค้า เพื่อพิชิตเป้าหมาย 1,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าสู่การเป็น Best International Buffet in Southeast Asia แม้จะเป็นเส้นทางที่ท้าทาย แต่เชื่อว่าด้วยศักยภาพของแบรนด์ที่ได้สั่งสมมาตลอด 9 ปี ความมุ่งมั่นตั้งใจของทีมงานที่มีความแข็งแกร่ง เราจะสามารถพิชิตเป้าหมายนี้ได้แน่นอน
"ในส่วนของการขยายสาขาเพิ่มเติมนั้น ยังต้องรอจังหวะ และโอกาสที่เหมาะสม เพราะด้วยโมเดลร้าน และคอนเซ็ปต์ของ Copper Beyond Buffet ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัย โจทย์สำคัญคือ หากการขยายสาขาแล้วทำให้เราต้องลดคุณภาพ เรายอมมี 2 สาขาดีกว่า เพราะแบรนด์ของเราขับเคลื่อนด้วยคุณภาพของโปรดักต์...ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างดูโลเคชั่น อยากได้พื้นที่ที่มีทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติ ซึ่งถ้ามี Entertainment Complex ขึ้นมาจริง เราก็น่าจะมุ่งไปเลย เพราะมีลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติ" น.ส.พจนีย์ ระบุ
นอกจากนี้ ในปีนี้ยังมีแผนที่จะรวมร้านอาหาร "เตี๋ยวคอปเปอร์" กับ "คอปเปอร์ บุฟเฟต์" มารวมในกรุ๊ปเดียวกัน และมีโอกาสที่จะขยายเตี๋ยวคอปเปอร์ไปยังต่างประเทศด้วย ส่วนแผนอื่น ๆ ที่วางไว้ คือบริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ (Catering Service) แต่ในเรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างทำแผน และขอดูตลาดก่อน
น.ส.พจนีย์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการฉลองการก้าวสู่ปีที่ 9 Copper Beyond Buffet ตั้งใจสร้างมิติใหม่ให้วงการบุฟเฟต์อีกครั้ง ด้วยการ Collaboration กับสองแบรนด์ดังชื่อดังระดับโลก อย่าง "สก็อตรังนก" ผู้นำด้านตลาดรังนกแท้จากธรรมชาติ และ "ชาตรามือ" ผู้นำตลาดของชาไทยและเครื่องดื่ม พร้อม 2 เชฟมิชลินชื่อดัง มาร่วมรังสรรค์เมนูสุดพิเศษมากกว่า 20 เมนู
โดยนอกจากจะสร้างประสบการณ์ระดับไฟน์ไดนิ่ง เพื่อตอกย้ำความพิเศษของการ Collaboration ครั้งแรกของแบรนด์ ยังมีการนำวัตถุดิบไฮไลต์ของทั้ง 2 แบรนด์ มารังสรรค์ใหม่ ร่วมกับวัตถุดิบคุณภาพสูง และเป็นที่นิยมของคนทั่วโลก ด้วยเทคนิคการปรุงขั้นสูง และเสิร์ฟทุกเมนูในรูปแบบของไฟน์ไดนิ่ง จนเป็นเมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟทั้งเมนูอาหารคาว ของหวาน และเครื่องดื่มแบบไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน
พร้อมเปิดตัว 4 พาร์ตเนอร์ ที่จะมาร่วมขับเคลื่อนความสำเร็จไปกับ Copper Beyond Buffet ได้แก่
- S-Pure แบรนด์ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และอาหารเกรดพรีเมียม อันดับ 1
- Foodiva บริษัทผู้นำเข้าเนื้อเกรดพรีเมียมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย
- Qfresh ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารทะเล ภายใต้ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป
- Hungry Hub แพลตฟอร์มจองร้านอาหาร ที่ใหญ่และมีเครือข่ายมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย