นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดอยู่ที่ 33.62/63 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดเช้านี้ที่ ระดับ 33.65 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบ 33.57 - 33.63 บาท/ดอลลาร์ เงินบาทและสกุลเงินใน ภูมิภาคเคลื่อนไหวทรงตัว ระหว่างวันยังไร้ปัจจัยใหม่ ส่วนราคาทองระหว่างวันก็ยังคงนิ่ง
ในส่วนของผลประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ออกมาว่าคงดอกเบี้ยตามคาด ตลาดได้รับรู้ไปก่อนหน้านี้แล้ว และถ้อย แถลง BOJ ที่ออกมาก็ไม่ได้กระทบค่าเงินเยน
สำหรับคืนนี้รอติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ตลาดคาดว่าจะคงดอกเบี้ย โดยหลัก ๆ ตลาดรอดูถ้อย แถลงของประธานเฟด และ Dot Plot ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 33.50 - 33.80 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 149.74/75 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 149.57 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0899/0901 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0934 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,189.66 จุด เพิ่มขึ้น 13.49 จุด (+1.15%) มูลค่าซื้อขาย 42,751.30 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 655.19 ล้านบาท
- คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) คาดเศรษฐกิจดิจิทัลปี 2568 จะมีมูลค่า 4.8 ล้านล้านบาท มี
การขยายตัว 7.3% จากปี 2567 และคิดเป็นการขยายตัว 2.6 เท่า ของการขยายตัวของ GDP โดยรวมที่ขยายตัว 2.8% (สำนักงาน
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประมาณการ) แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจดิจิทัลขยายตัวสูง และเป็นหนึ่งในภาคเศรษฐกิจที่สนับ
สนุนเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัวมาโดยตลอด
- ที่ประชุมคณะกรรมการประสานงาน (วิป) 3 ฝ่าย เห็นตรงกันว่ากรอบเวลาในการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ
รัฐมนตรีเป็นรายบุคคลตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ว่า จะเริ่มต้นในวันที่ 24 มี.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 น.เป็นต้นไป อภิปรายจนถึง
เวลาประมาณ 23.30 น.ของวันที่ 25 มี.ค. แล้วจะนัดลงมติวันที่ 26 มี.ค.โดยกำหนดกรอบเวลาการอภิปราย แบ่งเป็น ฝ่ายค้าน 28
ชั่วโมง , ฝ่ายรัฐบาล รวมกับ ครม. 7 ชั่วโมง และประธานที่ประชุม 2 ชั่วโมง
- คณะกรรมการ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.5% ตามคาด เนื่องจาก BOJ ต้องการใช้เวลามากขึ้นในการประเมิน
ว่า การที่สหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีศุลกากรจะมีผลกระทบมากเพียงใดต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ต้องพึ่งพาการส่งออก
- เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งเปิดเผยว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยังคงมีแผนบังคับใช้
มาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ในวันที่ 2 เม.ย. นี้ โดยได้ชี้แจงเพิ่มเติมจากความเห็นของรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ที่บ่งชี้
ว่า ประเทศต่าง ๆ สามารถเจรจาต่อรองก่อนที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าใหม่ดังกล่าว
- ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repurchase rate) ระยะ
เวลา 7 วัน ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไว้ที่ระดับ 5.75% ในการประชุมวันนี้ (19 มี.ค.) ตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ท่ามกลาง
ภาวะผันผวนของตลาดในประเทศ อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าที่เกิดขึ้นทั่วโลก และนโยบายการคลังของรัฐบาล
อินโดนีเซีย