ชิ้นส่วนยานยนต์ไทยยังน่าห่วง คาดกลุ่ม OEM ปีนี้หดตัวหลังผลิตรถน้อยลง จับตาการแข่งขันจากจีน

ข่าวเศรษฐกิจ Friday March 21, 2025 15:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ชิ้นส่วนยานยนต์ไทยยังน่าห่วง คาดกลุ่ม OEM ปีนี้หดตัวหลังผลิตรถน้อยลง จับตาการแข่งขันจากจีน

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินในปี 2568 มูลค่าตลาดชิ้นส่วนรถยนต์ (ไม่รวมยางรถยนต์) ที่ผลิตในไทยโดยรวมจะหดตัว 1.0% มีมูลค่า 8.3 แสนล้านบาท โดยเป็นชิ้นส่วนรถยนต์ประเภท OEM (Original Equipment Manufacturing) ที่เข้าสู่สายการผลิตรถยนต์จะหดตัว 1.8% จากความต้องการในประเทศที่มีทิศทางหดตัว ตามการผลิตรถยนต์ในไทยที่หดตัวลง 1.3% จนอาจเหลือไม่ถึง 1.45 ล้านคัน แม้ความต้องการในตลาดส่งออกจะเพิ่มขึ้น

โดยยอดขายชิ้นส่วน OEM ในประเทศโดยรวมมีแนวโน้มหดตัวต่ำกว่า 2.9% เหลือยอดขายไม่ถึง 4.5 แสนล้านบาท สอดคล้องกับปริมาณการผลิตรถยนต์ในไทยที่หดตัวต่อเนื่อง ส่วนยอดส่งออกชิ้นส่วน OEM ไทยคาดขยายตัวเล็กน้อยที่ 0.5% คิดเป็นมูลค่า 2.28 แสนล้านบาท แม้การผลิตรถยนต์ในตลาดส่งออกหลักของชิ้นส่วน OEM ไทยโดยรวม คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 0.2% คิดเป็น 11.46 ล้านคัน แต่บางตลาดอาจผลิตรถยนต์ได้น้อยลง เช่น อินโดนีเซีย ที่กำลังเจอปัญหาการลดลงของชนชั้นกลาง ซึ่งกระทบยอดขายรถยนต์ ส่วนญี่ปุ่นมีโอกาสส่งออกรถยนต์ลดลง หลังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดหลักเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าจนอาจกระทบความต้องการชิ้นส่วน OEM ไทยให้โตต่ำ

ขณะที่ชิ้นส่วน REM (Replacement Equipment Manufacturing) หรือชิ้นส่วนอะไหล่ที่ใช้ในการซ่อมบำรุงรถยนต์ของไทย โดยรวมในปี 2568 อาจขยายตัว 3.6% จากความต้องการในประเทศที่มีทิศทางขยายตัว ตามปริมาณรถยนต์จดทะเบียนสะสมที่เพิ่มขึ้น และความต้องการในตลาดส่งออกที่เพิ่มขึ้น

โดยยอดขายชิ้นส่วนรถยนต์ REM ไทยในประเทศ คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้น 2.3% สู่ 1.21 แสนล้านบาท จากปัจจัยหลัก คือ ปริมาณรถยนต์สะสมบนถนนที่เพิ่มขึ้นในประเทศต่อเนื่อง จนคาดว่าในปี 2568 จะขึ้นไปสูงถึง 21.31 ล้านคัน โดยมีสัดส่วนของรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี เพิ่มขึ้นเป็น 70% จากผลของภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ทำให้ผู้บริโภคยืดอายุการใช้งานรถยนต์นานขึ้น โดยชิ้นส่วน REM ไทยคาดว่าน่าจะมีส่วนแบ่งในตลาดสูงถึงมากกว่า 60% ส่วนที่เหลือคาดเป็นชิ้นส่วน REM นำเข้า โดยมีจีนเป็นประเทศส่งออกหลักมายังไทย

ส่วนยอดส่งออกชิ้นส่วน REM ไทย แม้มีโอกาสขยายตัว 4.7% สู่ 2.79 หมื่นล้านบาท แต่การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากชิ้นส่วน REM จีน ทำให้การส่งออกในอนาคตมีความเสี่ยง โดยปัจจุบันพบว่าการส่งออกชิ้นส่วน REM จีนเริ่มกินส่วนแบ่งในหลายตลาดมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอัตราเร่ง เช่น อาเซียน ที่จีนขยับส่วนแบ่งจาก 11% ขึ้นมาอยู่ที่ 16% ในปัจจุบัน โดยการเติบโตลักษณะเช่นนี้ทำให้การส่งออกชิ้นส่วน REM ไทยเสี่ยงต้องเผชิญการแข่งขันสูงขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะเมื่อจีนโดนกีดกันการค้าและต้องหาตลาดส่งออกทดแทน ซึ่งอาจเป็นตลาดเดียวกันกับไทย

โดยอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ไทยต้องเผชิญกับความเสี่ยงจาก 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่

  • ปัญหาการกีดกันการค้าที่รุนแรงขึ้นจากนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีผลต่อทิศทางการเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะแนวคิดในการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์จากทั่วโลก 25%
  • การเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีรถยนต์ BEV โดยเฉพาะรถยนต์ใช้น้ำมันที่ถูกแทนที่ด้วยรถยนต์ BEV โดยคาดว่าในปีนี้หากค่ายรถจะผลิตชดเชยให้ครบตามข้อกำหนดในโครงการ EV3.0 อาจต้องผลิตรถยนต์ BEV มากกว่า 1 แสนคัน และแม้จะมีชิ้นส่วนรถยนต์ไทยบางส่วนที่เข้าสายการผลิตรถยนต์ BEV ได้ แต่ยังมีน้อยมาก เนื่องจากยังมีการนำเข้าชิ้นส่วนจากจีนมาประกอบแทน
  • การแข่งขันกับรถยนต์และชิ้นส่วนจากจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นมากทั้งในประเทศและตลาดส่งออก หลังจีนต้องหาตลาดส่งออกมากขึ้น ทั้งมายังไทยหรือตลาดคู่ค้าของไทยจากปัญหาสงครามการค้าทีทวีความรุนแรงขึ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ