บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองทิศทางดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า (24-28 มี.ค.68) มีแนวรับอยู่ที่ 1,165 และ 1,155 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,200 และ 1,210 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ (Flow) ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือน มี.ค. (เบื้องต้น) , ยอดขายบ้านใหม่, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน, รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล ดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนก.พ., ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2567 (final) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่น ๆ ได้แก่ ดัชนี PMI, ภาคการผลิตและการบริการเดือน มี.ค. (เบื้องต้น) ของญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ ตลอดจนกำไรบริษัทอุตสาหกรรมเดือน ก.พ.ของจีน
ดัชนีหุ้นไทยปิดบวกตามแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มแบงก์และพลังงาน ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบช่วงแรก ก่อนจะทยอยปรับตัวขึ้นจนถึงช่วงกลางสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคก่อนการประชุมเฟด ประกอบกับน่าจะมีแรงซื้อคืนหุ้นไทยจากนักลงทุนหลังดัชนีตลาดหุ้นไทยร่วงลงต่อเนื่องหลายสัปดาห์ โดยแรงซื้อหลัก ๆ อยู่ในกลุ่มแบงก์จากความคาดหวังเรื่องเงินปันผลก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD ซึ่งในระหว่างสัปดาห์ก็มีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการประกาศจ่ายเงินปันผลกรณีพิเศษของแบงก์ใหญ่แห่งหนึ่ง รวมถึงกลุ่มพลังงานจากอานิสงส์ของราคาน้ำมันในตลาด โลกที่ปรับตัวขึ้น ดัชนีหุ้นไทยย่อตัวลงช่วงสั้น ๆ ในเวลาต่อมาตามแรงขายทำกำไรหุ้นรายตัว โดยเฉพาะหุ้นบริษัทด้านพลังงานรายใหญ่แห่งหนึ่งและบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่แห่งหนึ่งก่อนขึ้นเครื่องหมาย SP ตามขั้นตอนของการควบรวมกิจการ ก่อนจะขยับขึ้นอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์โดยยังคงมีแรงซื้อต่อเนื่องในกลุ่มแบงก์และพลังงานเข้ามาหนุน
ในวันศุกร์ที่ 21 มี.ค.68 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,186.61 จุด ปรับขึ้น 1.09% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 41,942.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.15% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.17% มาปิดที่ระดับ 246.58 จุด